โวยยิงปืนขึ้นฟ้า คนยิงเฮฮา ชาวบ้านเสี่ยงตาย
ช่วงนี้มีเหตุการณ์เกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้า และกระสุนตกใส่บ้านชาวบ้านจนเกือบจะเกิดโศกนาฏกรรม
ต้นเรื่องมาจากการแชร์คลิปวีดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพชายหนุ่มใส่เสื้อสีแดง สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีครีม ยื่นอาวุธปืนยาว เอชเค 33 ให้กับผู้หญิงวัยกลางคน สวมชุดสีแดง และฮิญาบสีส้ม โดยหญิงคนนี้ยืนอยู่หน้าบ้าน จากนั้นได้ชูปืนขึ้นและเหนี่ยวไกยิงขึ้นฟ้าเป็นชุดๆ เสียงดังสนั่น ขณะนี้ผู้หญิงที่ยิงปืน กับคนที่อยู่ใกล้ๆ มีเสียงพูดคุยกันในลักษณะอารมณ์ดี มีความสุข
โดยผู้ที่อยู่ในคลิปได้พูดจาด้วยภาษามลายูถิ่น (ภาษายาวี) ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แปลเป็นไทยได้ความว่า ฝ่ายหญิงบอกฝ่ายชายให้ถ่ายคลิปตอนยิงปืนขึ้นฟ้าให้เห็นชัดๆ ขณะที่ฝ่ายชายแนะนำว่า ให้ยกปืนขึ้นสูงๆ และบอกว่า ภาพนี้สวย ยืนถือปืนยาว
แม้ในคลิปจะไม่มีคำพูดใดที่บอกให้รู้ว่า คนในคลิปอยู่ ณ สถานที่ใด แต่ช่วงท้ายคลิปมีการถ่ายภาพรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ โดยเป็นแพนภาพแบบผ่านๆ ไม่ได้ตั้งใจถ่าย แต่ถ้าหยุดภาพจะเห็นว่า ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ เป็นป้ายทะเบียนจังหวัดยะลา จึงเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ และสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นช่วงเทศกาลฮารีรายอที่ผ่านมา เพราะในคอมเมนท์ที่ผู้ชมคลิปเขียนเอาไว้หลังได้ชมคลิปนี้คือ “ถ่ายคลิปโชว์ฉลองรายอ”
ต่อมา มีบุคคลที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ โพสต์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียว่า “เล่านาทีชีวิต ควันหลงวันรายอ ที่บ้านเราเอง ในพื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ยิงปืนขึ้นฟ้า โดนหลังคาบ้านเรา มันคือชีวิตหนูและลูกเลยค่ะแอด (หมายถึงแอดมิน) หนูกับลูกสาวนอนอยู่ในห้อง ถ้ามันตกมาตรงที่หนูและลูกวัย 4 ขวบนอนอยู่ ไม่รู้ว่าจะเกิดไรขึ้นนะแอด”
“อยากให้แอดฝากถึงคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้า มันไม่ใช่แค่สนุก แต่มันเป็นนาทีชีวิตเลย หนูเห็นคลิปที่แอดโพสต์ หนูเลยส่งภาพนี้ให้แอดดู มันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มันอาจจะเป็นผลของการกระทำของคนบางคน”
ผู้ร้องเรียนรายนี้ ได้แนบภาพถ่ายหลังคาบ้านที่มีรอยกระสุน และลูกกระสุนสีทองที่อ้างว่าตกลงมาใส่หลังคาบ้านด้วย โชคดีที่ไม่โดนใครในบ้าน
ชาวบ้านใน อ.รามัน บอกว่า ขอร้องผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ เพราะเห็นชัดถึงพฤติกรรม และที่มาของอาวุธ คิดว่าไม่น่าจะยาก หากจะหาตัวมาลงโทษ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่ โดยเฉพาะคนที่ครอบครองอาวุธแบบนี้ได้ ถ้าไม่ใช่คนของรัฐ ก็เป็นคนร้าย ซึ่งถ้าเป็นคนร้าย เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยิ่งไม่ควรละเลย
@@ สาวมือยิงมอบตัวแล้ว อ้างไม่ใช่รายอ ส่อปัดกระสุนตกใส่บ้านเด็ก
ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พ.ค.64 หญิงวัยกลางคนในคลิปใช้ปืนยาว เอชเค 33 ยิงขึ้นฟ้า ซึ่งเผยแพร่อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ ได้เข้าพบตำรวจ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา แล้ว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าเป็นการยิงปืนในวันเข้าสุนัตของหลานชาย เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ไม่ได้ยิงในวันฮารีรายอตามที่มีการตั้งข้อสังเกตกัน
หากคำให้การเบื้องต้นของสาวใหญ่รายนี้เป็นความจริง ก็เท่ากับว่าเป็นการให้การภาคเสธ เกี่ยวกับเหตุการณ์กระสุนปืนตกใส่บ้านสองแม่ลูกที่ออกมาโพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรม และอาจเป็นไปได้ว่า มีการยิงปืนขึ้นฟ้ากรณีอื่นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
@@ ยิงปืนขึ้นฟ้า ผิดกฎหมาย คุกสูงสุด 10 ปี
พฤติการณ์ยิงปืนขึ้นฟ้า เข้าข่ายยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร หากเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา แต่ถ้าเป็นคนทั่วไป ยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วไม่ได้สร้างความเสียหายให้ใคร ก็ถือว่าโชคดีไป แต่อาจถูกดำเนินคดีฐานครอบครองอาวุธปืน กรณีเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต หรือเป็นอาวุธปืนเถื่อน และตัวผู้ยิงไม่มีใบอนุญาตครอบครอง
ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 บัญญัติความผิดฐานยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่ว่าจะในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณียิงปืนขึ้นฟ้าแล้วกระสุนตกลงมาโดนผู้อื่น ถ้าบาดเจ็บธรรมดา มีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
หากทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
หากการยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วกระสุนตกลงมา ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จะมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากทรัพย์สินเสียหายก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าชดใช้ได้เช่นกัน
หากผู้ยิงไม่มีใบอนุญาตพกปืน ยังโดนข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพในคลิป ปืนยาว เอชเค 33 น่าจะเข้าข่ายเป็นอาวุธสงคราม ประชาชนทั่วไปมีไว้ในครอบครองไม่ได้ น่าจะมีความผิดในส่วนนี้เพิ่มอีกด้วยหรือไม่
สำหรับผู้เสียหาย แม้ไม่ทราบตัวผู้ยิงปืนขึ้นฟ้า ก็สามารถยื่นขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่รู้เหตุที่เกิด โดยผู้เสียหายจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นั้น
ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/98813-womangun.html