บทความ

มัสยิดถูกปิด-โควิดระบาดหนัก ความท้าทายสำคัญของชุมชนมุสลิมในวันที่รัฐพึ่งพาไม่ได้

เราอยู่ในสถานการณ์ระบาดของโควิดกันมาตั้งแต่ต้นปีก่อน และถึงแม้เราจะผ่านช่วงการระบาดหนักในประเทศมาแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งล่าสุดที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้รุนแรงกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า และมันทำให้หลายพื้นที่ของประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤต ไม่เว้นแม้แต่ในชุมชนมุสลิม

จริงอยู่ที่ในฐานะมุสลิมเราจำเป็นต้องเชื่อว่าโรคระบาดคือการกำหนดของอัลลอฮ์ และผู้รู้ศาสนาหลายท่านก็ยืนยันตรงกันว่านั่นไม่ได้เป็นเหตุผลให้เราไม่ต้องลงมือทำอะไร และย้ำเตือนว่าเราเองก็มีหน้าที่ต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและไม่สร้างผลกระทบกับคนอื่น แต่หนึ่งปีกว่าที่ผ่านมาของการระบาดพิสูจน์ให้เราเห็นหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า ความรุนแรงของการระบาดนั้นอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคลอย่างเราๆ แต่เป็นความล้มเหลวของรัฐในฐานะผู้ปกครองที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิตของผู้คน

นอกจากล้มเหลวในการลดความรุนแรงของการระบาดแล้ว เรายังแทบไม่สามารถพึ่งพารัฐได้เลยในการเอาตัวรอดจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ ของชีวิต และนั่นทำให้หลายคนเลิกหวังความช่วยเหลือจากรัฐและหันมาดูแลกันเอง ซึ่งมีตั้งแต่สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างการรับแจ้งหาเตียงหาที่รักษาให้กับผู้ป่วย ไปจนถึงการแจกจ่ายอาหารให้กับคนที่ต้องกักตัว คนตกงาน ขาดรายได้ หรือได้รับผลกระทบอื่นๆ

ปรับโฟกัสไว้แค่เพียงสังคมมุสลิม ที่ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่กันอยู่ในรูปแบบชุมชนดั้งเดิมที่มีมัสยิดเป็นศูนย์ในการบริหารจัดการ แน่นอนว่าแทบทุกชุมชนคงไม่อาจหลีกหนีความรุนแรงของการระบาดในรอบนี้ไปได้ ซึ่งเราเห็นได้ชัดเจนทั้งในสี่จังหวัดภาคใต้ที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงจนหลายหมู่บ้านต้องการล็อคดาวน์ห้ามการเข้าออก หรือหลายชุมชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่สถานการณ์รุนแรงและมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย

คำถามสำคัญคือ วันนี้และวันที่ผ่านมารวมไปถึงวันข้างหน้าที่เราพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐไม่ได้ มัสยิดและผู้นำชุมชนมุสลิมสามารถรับมือกับสถานการณ์ในชุมชนตัวเองมากน้อยขนาดไหน และที่สำคัญกว่านั้นคือมีการสำรวจสถานการณ์และเตรียมความพร้อมอะไรไว้บ้างแล้วหรือยัง

เมื่อวานนี้ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้จัดเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “พระเจ้า นักบุญ วิทยาศาสตร์ และนักระบาดวิทยา : ชุมชนศาสนาในยุคโควิด-19” ที่ร่วมเสวนาโดย ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ, ผศ.ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด และ ดร.นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ (คลิกดูย้อนหลัง https://bit.ly/3h2tj3U )

ก่อนการเสวนา ผศ.ดร. มูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรัง ผู้ดำเนินรายการ ได้โพสต์แสดงความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุคส่วนตัว อาจารย์บอกว่านี่เป็นความท้าทายอย่างที่สุดของชุมชนมุสลิม เพราะเมื่อชุมชนและมัสยิดถูกปิดสถานการณ์ก็จะยิ่งแย่ลงจนอาจนำไปสู่หายนะ เพราะมันทำให้เราขาดการร่วมกันคิดร่วมกันแก้ปัญหา

“ถึงวันนี้ ไม่อาจพึ่งรัฐได้ มัสยิดควรสำรวจสมาชิกในชุมชนว่าครอบครัวไหนอ่อนไหวที่สุด มัสยิดมีทั้งเงินและความเชื่อมั่น ควรเป็นแหล่งระดมทุน อาจจัดตั้งครัวกลางสำหรับผู้ที่อ่อนแอที่สุดในชุมชน ในช่วงนี้เลิกสร้างต่อเติมมัสยิดกันก่อน นำเอาทรัพยากรทั้งหมดมาสนับสนุนคนยากจนที่สุดในชุมชนให้อยู่ได้ก่อน”

ที่มา : https://www.facebook.com/halal.life.magazine/photos/a.191901920867235/4169957156395005/