ล็อกดาวน์แคมป์คนงาน 4 จังหวัดใต้ งดนั่งกินที่ร้าน ปิดมัสยิด-บาลาเซาะห์เพิ่ม
ล็อกดาวน์แคมป์คนงาน งดนั่งกินที่ร้านทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ ศบค.ยะลา จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในชุมชน สั่งปิดกิจการเสี่ยงในจังหวัด ส่วนปัตตานีปิดมัสยิด บาลาเซาะห์ 17 แห่งใน 3 อำเภอ เร่งประกอบเตียงกระดาษเพิ่มอีก 400 เตียง
วันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย.64 มีการเผยแพร่ข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25 ) ซึ่งลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญคือ การล็อกดาวน์แคมป์คนงาน และห้ามการรวมกลุ่มกันในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และรวมถึงพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และจังหวัดสงขลา โดยสรุปดังนี้
1.ล็อกดาวน์ปิดแคมป์ก่อสร้าง 30 วัน เพื่อเข้าควบคุมและชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
2.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านอาหารทั้งหมดให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น
3.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21.00 น.โดยให้งดการให้บริการเพิ่มเติมในพื้นที่โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ พื้นที่นั่งรับประทานในศูนย์อาหาร และเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคลในพื้นที่พักคอย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบหมุนเวียนอากาศ
4.โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ โดยให้งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา และการจัดเลี้ยง
5.ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีกรรรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่ายี่สิบคน เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
@@ ศบค.ยะลา ตั้ง รพ.สนามในชุมชน – สั่งปิดกิจการเสี่ยง
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.ยะลา ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัด จึงมีมติให้เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในชุมชน รองรับโรงพยาบาลสนามของ จ.ยะลา และโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ที่มีปัญหาผู้ป่วยล้นเตียง พร้อมกับเปิดโรงพยาบาลสนาม จ.ยะลา เพิ่มอีก 1 อาคาร เป็นหลังที่ 6 ภายในโรงเรียนศึกษาพิเศษ เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา
นอกจากนี้ทาง ศบค.ยะลา ได้มีประกาศคำสั่งที่ 132/2564 กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง ร้านเกม อินเทอร์เน็ต โต๊ะสนุกเกอร์ สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า มหรสพ ยิม ฟิตเนส และกำหนดให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ให้เปิดบริการได้จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ งดบริการที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น สวนสนุก
ส่วนร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาเก็ต เปิดได้ระหว่าง 04.00-22.00 น. และตลาดนัด กำหนดทางเข้าออก ทางเดียว มีจุดคัดกรองและบันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการ ผู้ค้า ผู้ซื้อต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 1-15 ก.ค.64
ส่วนสถานที่ที่มีการผ่อนคลายให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโดยต้องผ่านการประเมินจากศูนย์ฯ มีร้านจำหน่ายอาหาร น้ำชา กาแฟ เปิดได้ไม่เกิน 22.00 น.และห้ามดื่มสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในร้าน สถานที่ท่องเที่ยว สนามเด็กเล่น สวนสนุก ที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์พระเครื่อง คลินิกเสริมสวย โรงนวด สนามกีฬาในร่ม เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ทั้งนี้ต้องขออนุญาต และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 นี้ เป็นต้นไป
@@ ปิดมัสยิดและบาลาเซาะห์ 17 แห่งใน 3 อำเภอปัตตานี
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มีประกาศคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่(พิเศษ)38/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากจังหวัดปัตตานียังมีผุ้ป่วยสะสมเพิ่มสูงขึ้น และพบผู้ป่วยรายใหม่ทุก ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี จึงมีความเห็นชอบออกคำสั่งดังนี้
1.ให้ขยายระยะเวลาการปิดกลุ่มบ้านบือแนบาตู บ้านบาลูกา ม.4 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จงปัตตานี ออกไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.64- 8 ก.ค.64
2.ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มัสยิดและบาลาเซาะห์ 17 แห่งในพื้นที่ 3 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.64 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
อ.เมืองปัตตานี ได้แก่ หมู่ 4 บ้านจือแรนิบง ต.ปะกาฮารัง และปิดมัสยิดซีอารลอีมาน, หมู่ 6 บ้านจือโระ ต.บานา และปิดมัสยิดนูรุลอิสลาม มัสยิดนูรุลสะอาดะห์, หมู่ 2 บ้านบาราเฮาะ ต.บาราเฮาะ และปิดมัสยิดนูรุลฮีดายะห์, หมู่ 8 บ้านปรีดอ ต.บาราเฮาะ และปิดมัสยิดบลีดอ, หมู่ 8 บ้านดือราแฮ ต.ตะลุโบะ และปิดมัสยิดอัลฮูดา, หมู่ 3 บ้านสระมาลา ต.คลองมานิง และปิดมัสยิดาระมาลา
อ.กะพ้อ ได้แก่ หมู่ 1 บ้านมะกอ ต.ปล่องหอย และปิดมัสบิดบ้านมะกอ, หมู่ 3 บ้านบาโงสาเมาะ ต.ปล่องหอย และมัสยิดนูรุลอิฮซาน, หมู่ 4 บ้านบาลูกา ต.กะรุบี และปิดมัสยิดอัลมูนีร์ มัสยิดนูรุลฮูดา
อ.ไม้แก่น ได้แก่ หมู่ 3 บ้านตะโละแกตอง และปิดมัสยิดอัลเราะฮมานี บาลาเซาะห์ โรงเรียน ตะโละไกรทอง บาราเซาะห์บาบอมะ, หมู่ 3 บ้านบลีกู และปิดบาลาเซาะห์บลีกู, หมู่ 3บ้านกูแบซือโย๊ะ และปิดบาลาเซาะห์กูแบซือโย๊ะ, หมู่ 3 บ้านกูแบลียา และปิดบาลาเซาะห์กูแบลียา
@@ ขยาย รพ.สนามปัตตานี เพิ่มเตียงกระดาษอีก 400 เตียง
ด้านสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี นำโดย นายแพทย์รุซตา สาและ ผอ.โรงพยาบาลสนามจังหวัดปัตตานี ได้จัดสถานที่ ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ซึ่งเดิมเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 อยู่แล้ว ได้ขยายใช้พื้นที่บริเวณโดยรอบของสนาม ตั้งเต็นท์โดมขนาดใหญ่จำนวน 10 เต็นท์ พร้อมนำเตียงกระดาษ กว่า 400 เตียง รองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
นายแพทย์ รุซตา กล่าวว่า ในขณะนี้โรงพยาบาลสนามมีเตียงสนาม 856 เตียงทั้งหมด ถ้าบวกกับเตียงกระดาษที่เรากำลังติดตั้งในวันนี้ ก็จะมีเตียงสนามเพิ่มเป็น 1,200 เตียง จึงต้องมีการเพิ่มและขยายโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีก โดยมีเป้าหมายในการสร้างโรงพยาบาลสนามทั้งสิ้น 2,000 เตียง
@@แม่ทัพ – ที่ปรึกษาตร. เยี่ยมชาวบ้านและกำลังพล
ที่ จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่หมู่ 2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นำสิ่งของที่เตรียมไว้ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ปลากระป๋อง อุปกรณ์ในการป้องกันตนเอง มอบให้แก่ผู้นำท้องที่ นำไปใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนยังหมู่บ้านและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมพบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น กำลังภาคประชาชน หาแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนร่วมประกอบอาหารแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนยังหมู่บ้านที่มีความเสี่ยงห้ามบุคคลเข้า-ออก ตามคำสั่ง ศบค.นราธิวาส เน้นย้ำกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด และจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองเป็นสำคัญด้วย
ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชนปากบาง หรือ “ป้อมโคบัง” ที่เป็น สภ.ย่อย ของสถานีตำรวจ เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านงานตำรวจชุมชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ของสถานีตำรวจชุมชนดังกล่าว พร้อมให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งได้มอบของที่ระลึกให้แก่ตำรวจชุมชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ห้วงสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย
@@โควิดใหม่ปัตตานีพุ่งไม่หยุด ป่วยใหม่ 173 สะสมทะลุ 2,000
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา ประจำวันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 98 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 1,559 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 991 ราย รักษาหายแล้ว 557 ราย มีผู้เสียรายใหม่ 1 รายเป็นเพศหญิง อายุ 54 ปี อ.กรงปินัง ทำให้มีเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 11 ราย อยู่ระหว่างรอผล 3,611 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 991 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 146 ราย โรงพยาบาลเบตง 114 ราย โรงพยาบาลรามัน 29 ราย โรงพยาบาลยะหา 83 ราย โรงพยาบาลธารโต 10 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 68 ราย โรงพยาบาลกาบัง 2 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 7 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 336 ราย และโรงพยาบาลสนามเบตง 60 ราย รอเตียง 136 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 581 ราย, อ.กรงปินัง 142 ราย, อ.เบตง 211 ราย, อ.รามัน 81 ราย, อ.บันนังสตา 232 ราย, อ.กาบัง 55 ราย อ.ธารโต 136 ราย และ อ.ยะหา 121 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 54 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ 3 ราย อ.สุไหงปาดี 8 ราย อ.เมือง 10 ราย อ.ยี่งอ 1 ราย อ.ระแงะ 1 ราย อ.เจาะไอร้อง 3 ราย อ.ศรีสาคาร 16 ราย อ.สุคิริน 2 ราย อ.สุไหงโก-ลก 5 ราย อ.จะแนะ 1 ราย และ อ.ตากใบ 4 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 1,920 ราย รักษาหายสะสม 1,290 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 631 ราย, อ.ระแงะ 106 ราย, อ.รือเสาะ 88 ราย, อ.บาเจาะ 202 ราย, อ.จะแนะ 104 ราย, อ.ยี่งอ 60 ราย, อ.ตากใบ 411 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 33 ราย, อ.สุไหงปาดี 72 ราย, อ.ศรีสาคร 82 ราย, อ.แว้ง 50 ราย, อ.สุคิริน 37 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 43 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 173 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,004 ราย รักษาหายแล้ว 770 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย
ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 79 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 113 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 104 ราย โรงพยาบาลสนามสี่ 200 ราย โรงพยาบาลสนามที่ห้า 233 ราย โรงพยาบาลสนามที่หก 113 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 42 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 27 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 10 ราย โรงพยาบาลยะรัง 38 ราย โรงพยาบาลยะหริ่ง 19 ราย โรงพยาบาลไม้แก่น 25 ราย โรงพยาบาลมายอ 21 ราย โรงพยาบาลแม่ลาน 1 ราย โรงพยาบาลปะนาเระ 2 ราย โรงพยาบาลทุ่งยางแดง 5 ราย โรงพยาบาลกะพ้อ 7 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 28 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 27 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 124 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 8 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 707 ราย, อ.หนองจิก 318 ราย, อ.โคกโพธิ์ 77 ราย, อ.ยะหริ่ง 284 ราย, อ.สายบุรี 102 ราย, อ.ไม้แก่น 76 ราย, อ.แม่ลาน 32 ราย, อ.ยะรัง 151 ราย, อ.ปะนาเระ 72 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 27 ราย, อ.มายอ 90 ราย และอ.กะพ้อ 51 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 133 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 83 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 40 ราย กลุ่มรอบสอบสวนโรค 4 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยง รร.สอนศาสนา 2 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงบริษัทห้างร้าน 2 ราย และผู้คุมเรือนจำ 2 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 4,849 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 4,826 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,984 ราย รักษาหายแล้ว 2,849 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 16 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 518 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,375 ราย, อ.เมืองสงขลา 796 ราย, อ.จะนะ 434 ราย, อ.สะเดา 285 ราย, อ.เทพา 237 ราย, สทิงพระ 165 ราย, อ.บางกล่ำ 143 ราย, อ.สิงหนคร 135 ราย, อ.รัตภูมิ 44 ราย, อ.สะบ้าย้อย 39 ราย, อ.ระโนด 43 ราย, อ.นาทวี 35 ราย, อ.นาหม่อม 30 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 21 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, อ.ควนเนียง 5 ราย เป็นกรณีเรือนจำ รวม 997 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 31 รายและจากต่างประเทศ 23 ราย
ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/99931-covidsouthct.html