4 จังหวัดใต้คุมเข้มข้ามจังหวัด สงขลาไม่ปิดแคมป์คนงาน แค่งดเคลื่อนย้าย
ชายแดนใต้เข้มงวดเดินทางข้ามจังหวัด ตรวจเอกสารรับรองความจำเป็นละเอียดยิบ ขณะที่นราธิวาสเตรียมเปิด 2 หมู่บ้านสุดท้าย ต.เกาะสะท้อน 30 มิ.ย.นี้ ส่วนสงขลาไม่ปิดแคมป์คนงาน แค่งดเคลื่อนย้ายแรงงาน ด้านตำรวจเบตงออกตรวจไซต์ก่อสร้าง
วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.64 สถานการณ์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่อนข้างตึงเครียด เพราะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุด “สีแดงเข้ม” ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งล็อกดาวน์แคมป์คนงาน ห้ามนั่งรับประทานในร้านอาหาร น้ำชา กาแฟ และเพิ่มมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด
บรรยากาศที่ด่านตรวจคลองทรายใน ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าตัวเมืองยะลา รอยต่อระหว่างยะลา-ปัตตานี หลังจากที่ ศบค.ได้ออกมาตรการการงดเดินทางเข้า-ออกจังหวัดวันแรก เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.เป็นต้นไป ทำให้เจ้าหน้าตั้งด่านตรวจรถที่เดินทางทั้งขาเข้าและขาออกอย่างเข้มงวด โดยให้ผู้ที่เดินทางผ่านเข้า จ.ยะลา ต้องสแกน QR Code YALA SAFE ALERT และกรอกข้อมูลในระบบ เพื่อการติดตามกรณีพบผู้ติดเชื้อ
นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเมืองยะลา กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ศบค.ยะลาออกคำสั่งมาตรการนี้มาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนงดการเข้า-ออกพื้นที่ จ.ยะลาโดยสิ้นเชิง ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น และต้องทำการขอเอกสารรับรองการเดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อขออนุญาตกับเจ้าพนักงานประจำด่านตรวจ
เช่นเดียวกับที่ด่านตรวจเกาะหมอแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นจุดตรวจรอยต่อระหว่าง อ.เทพา จ.สงขลา กับ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และถือเป็นประตู่สู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัดได้ตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางทั้งขาเข้าและขาออกอย่างเข้มงวด โดยมีการซักถามประวัติ เส้นทาง และจุดมุ่งหมายปลายทาง พร้อมทั้งให้ผู้เดินทางต้องแสดงบัตรประชาชนควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
@@คนโก-ลกแห่ขอเอกสารรับรองเดินทางข้ามเขต
ส่วนที่จุดให้บริการขอเอกสารรับรองความจำเป็น บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีประชาชนเดินทางไปขอเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง เพื่อเดินทางข้ามจังหวัด ออกจากที่ตั้งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เป็นจำนวนมาก
นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการจัดจุดคัดกรองผู้มารับบริการด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ พร้อมจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง
นายรุ่งเรือง กล่าวว่า การเดินทางภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องยึดตามหลักเกณฑ์การตรวจคัดกรองการเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยเมื่อเดินทางเข้า-ออกจากจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือแสดงเอกสารอื่นๆ รวมถึงเอกสารรับรองความจำเป็นต่อเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่
มาตรการที่ว่านี้ครอบคลุมการเดินทางด้วยรถส่วนตัว รถไฟ รถโดยสารประจำทาง และเครื่องบิน สำหรับการขอเอกสารรับรองความจำเป็นในการดินทางของ อ.สุไหงโก-ลก จะพิจารณาตามความจำเป็นสูงสุดที่อ้างอิงโดยหลักฐานความจำเป็นที่แสดงต่อเจ้าพนักงาน เพื่อลดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
@@จ่อเปิดอีก 2 หมู่บ้านเกาะสะท้อน 30 มิ.ย.
ส่วนที่ศาลาประชาคมอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจังหวัดนราธิวาส (ส่วนหน้า) ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากที่มีมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ในหมู่บ้านที่ถูกปิดเพิ่มเติม 14 วันในพื้นที่หมู่ 5 บ้านโคกกะเปาะ และหมู่ 6 บ้านสันติสุข ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ
สำหรับรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน ล่าสุดมีผู้ป่วยในคลัสเตอร์เกาะสะท้อน รวม 313 ราย ซึ่งในขณะนี้มีแนวโน้มการแพร่กระจายเชื้อลดลง เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคมากขึ้น
ทำให้ที่ประชุมมีการพิจารณาเปิด 2 หมู่บ้านสุดท้าย เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดแก่ประชาชน แต่เน้นย้ำประชาชนให้เคร่งครัดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยกำหนดพร้อมเปิดหมู่บ้าน ในวันที่ 30 มิ.ย.64 นี้
@@สงขลาไม่ปิดแคมป์คนงาน แค่งดเคลื่อนย้ายแรงงาน
ด้านมาตรการล็อกดาวน์แคมป์คนงาน ซึ่งหลายฝ่ายเข้าใจว่าครอบคลุม 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม จ.สงขลาด้วยนั้น
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในส่วนของโรงงานและแคมป์คนงาน ทางจังหวัดยังไม่มีมาตรการให้ปิด แต่ขอให้งดเคลื่อนย้ายแรงงาน พร้อมทั้งได้กำชับให้ส่วนราชการเข้าไปตรวจและให้คำแนะนำในการควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ในข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 25 นั้น จ.สงขลา มีเพียงข้อเดียวที่เกี่ยวข้อง คือ งดเดินทางเข้าออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา นอกเหนือจากมีความจำเป็น โดยจะต้องขอใบรับรองอนุญาตเดินทางจากที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการเทศบาล อบต. สถานีตำรวจในท้องที่ หรือบัตรยืนยันการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการหรือหน่วยงาน เพื่อแสดงคู่กับบัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจหรือจุดคัดกรอง
@@ตรวจเข้มแคมป์คนงานเบตง
ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผู้กำกับการ สภ.เบตง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง และ สภ.อัยเยอร์เวง ตรวจสอบที่พักพิงของกลุ่มแรงงาน จำนวนคนงาน และสถานที่พักอาศัยของแรงงานในพื้นที่ อ.เบตง พร้อมทั้งชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับผู้ดูแลคนงานตามคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ห้ามมีการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด และให้แรงงานหยุดทำงานตามคำสั่ง ศบค.ส่วนกลาง ตั้งแต่วันที่ 28 มิย.64 เป็นต้นไป เป็นเวลา 30 วัน
ขณะที่ นายอับดุลเลาะห์ สาและ ประธานกลุ่มเยาวชนชุมชนบูเกะตักโกร อ.เบตง ได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง นำเพื่อนสมาชิกกลุ่มเยาวชนชุมชนบูเกะตักโกร ร่วมกันแจกจ่ายอาหารให้กับชาวบ้านภายในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจาก ศบค.ยะลา สั่งปิดทางเข้า-ออกชั่วคราว เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ยังคงมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
@@สงขลาป่วยสะสมทะลุ 5,000 – ยะลารอเข้า รพ.180 คน
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 95 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 1,654 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,063 ราย รักษาหายแล้ว 580 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 11 ราย อยู่ระหว่างรอผล 3,187 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,063 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 171 ราย โรงพยาบาลเบตง 114 ราย โรงพยาบาลรามัน 27 ราย โรงพยาบาลยะหา 82 ราย โรงพยาบาลธารโต 11 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 74 ราย โรงพยาบาลกาบัง 3 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 10 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 331 ราย และโรงพยาบาลสนามเบตง 60 ราย รายใหม่รอเข้าโรงพยาบาล 180 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 645 ราย, อ.กรงปินัง 148 ราย, อ.เบตง 218 ราย, อ.รามัน 84 ราย, อ.บันนังสตา 242 ราย, อ.กาบัง 57 ราย อ.ธารโต 137 ราย และ อ.ยะหา 123 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 86 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ 6 ราย อ.เมือง 12 ราย อ.ตากใบ 9 ราย อ.ยี่งอ 6 ราย อ.ระแงะ 9 ราย อ.ศรีสาคาร 1 ราย อ.รือเสาะ 11 ราย อ.จะแนะ 28 ราย และ อ.แว้ง 4 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,006 ราย รักษาหายสะสม 1,335 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 643 ราย, อ.ระแงะ 115 ราย, อ.รือเสาะ 99 ราย, อ.บาเจาะ 208 ราย, อ.จะแนะ 132 ราย, อ.ยี่งอ 66 ราย, อ.ตากใบ 420 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 33 ราย, อ.สุไหงปาดี 72 ราย, อ.ศรีสาคร 83 ราย, อ.แว้ง 54 ราย, อ.สุคิริน 37 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 43 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 275 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 186ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 70 ราย กลุ่มรอบสอบสวนโรค 11 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยง รร.สอนศาสนา 8 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 5,124 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 5,101 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,170 ราย รักษาหายแล้ว 2,937 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงวัย 74 ปี เป็นโรคความดันโลหิตสูงและปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 17 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 414 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,414 ราย, อ.เมืองสงขลา 850 ราย, อ.จะนะ 464 ราย, อ.สะเดา 290 ราย, อ.เทพา 275 ราย, สทิงพระ 196 ราย, อ.บางกล่ำ 144 ราย, อ.สิงหนคร 144 ราย, อ.รัตภูมิ 44 ราย, อ.สะบ้าย้อย 81 ราย, อ.ระโนด 48 ราย, อ.นาทวี 50 ราย, อ.นาหม่อม 34 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 22 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, อ.ควนเนียง 5 ราย เป็นกรณีเรือนจำ รวม 997 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 32 รายและจากต่างประเทศ 23 ราย
ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/99964-covidsouthcu.html
