ข่าวในประเทศ

ปิดมัสยิดกรือเซะ – ศาสนสถาน 3 อำเภอปัตตานีสกัดโควิด

ปัตตานีสั่งปิดเพิ่ม 9 หมู่บ้านเสี่ยง พ่วงมัสยิดกรือเซะและอีก 22 มัสยิด – บาลาเซาะห์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ขณะที่เทศบาลนครยะลาปิดสวนสาธารณะ – สนามกีฬา ลดการรวมตัวป้องกันโควิด ด้านนายอำเภอเบตง สั่งตรวจเข้ม – ของดเดินทางช่วงฮารีรายอ ปัตตานีป่วยใหม่เกือบ 300 ราย มีผู้ปฏิเสธรับการรักษาที่ยะลา 68 ราย

วันอังคารที่ 20 ก.ค.64 นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปัตตานี ได้ออกประกาศคำสั่งจังหวัดปัตตานีที่ (พิเศษ) 52/2564 เรื่องปิดที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากจากจังหวัดปัตตานียังมีผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงขึ้น พบผู้ป่วยรายใหม่ทุกวัน จึงส่งผลกระทยต่อความปลอดภัยในการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน จึงได้กำหนดให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมัสยิด และบาลาเซาะห์เพิ่มเติ่ม ดังต่อไปนี้

1. ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี ได้แก่
-หมู่ที่ 1 บ้านตันหยงลุโละ ต.ตันหยงลุโละ พร้อมทั้งปิด มัสยิดยามาอุลอิควาน, บาลาเซาะห์อัลอิควาน ,ลาลาเซาะห์อัสอิควาน(บือแน) ,บาลาเซาะห์ดารุลอามาน
-หมู่ที่ 3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ พร้อมทั้งปิดมัสยิดบาฮูลมูนีรกรือเซะ , มัสยิดกรือเซะ , มัสยิดดารุลนาอีม, มัสยิดกูโบร์รายอ, มัสยิดดารุลมุซาฟีรีน, มัสยิดหะยีสาและ
-หมู่ที่ 2 บ้านบานา ต.บานา พร้อมทั้งปิดมัสยิดนูรุสอิสลาม
-หมู่ที่ 3 บ้านบานา ต.บานา พร้อมทั้งปิดสุเหร่ารอซีดีน
-หมู่ที่ 8 บ้านยูโย ต.บานา พร้อมทั้งปิดมัสยิดนูรุลฮูดา(ยูโย)
-หมู่ที่ 2 บ้านบางปลาหมอ ต.รูสะมิแล พร้อมทั้งปิดมัสยิดบางปลาหมอ
-หมู่ที่ 7 บ้านปุยุด ต.ปุยุด พร้อมทั้งปิดมัสยิดยามิอุลอิฮ์ซาน , สุเหร่าอาคีรัต, มัสยิดชุมชนบ้านบาซาเปาะเดร์, มัสยิดโต๊ะดาตู, มัสยิดมาฆอซีดิลอิสลามีญะห์

2.ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง ได้แก่
-หมู่ที่ 2 บ้านดุซงปาแยตะวันตก(ซอย4-6) ต.ตอหลัง

3.ในพื้นที่ อ.หนองจิก ได้แก่
-หมู่ที่ 4 บ้านท่ายาลอ ต.ตุยง พร้อมทั้งปิดมัสยิดริฎวานียะห์ , มัสยิดดารุลอีม่าน, บาลาเซาะห์กะลูแป, บาลาเซาะห์ดาริงกลาง

ทำให้จนถึงขณะนี้ จ.ปัตตานี ได้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปแล้วทั้งหมด 36 หมู่บ้าน 43 มัสยิด 27 บาลาเซาะห์ จาก 26 ตำบลใน 9 อำเภอ

@@ยะลาปิดสวนสาธารณะ – สนามกีฬา ลดการรวมตัวป้องกันโควิด

covidsouth20071

ส่วนที่จังหวัดยะลาทางเทศบาลนครยะลา ได้ขอขยายเวลาปิดแหล่งเรียนรู้ สนามกีฬา และการดำเนินกิจกรรมชมรมด้านกีฬาและนันทนาการตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา ที่ 174/2564 เรื่อง การดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.64 – 2 ส.ค.64 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย อุทยานการเรียนรู้ ศูนย์เยาวชนฯ และอุทยานการเรียนรู้โรงเรียนเทศบาล 4 (ธนวิถี) , สวนสร้างสรรค์หรรษา , ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา , ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา , สนามกีฬาในร่มและกลางแจ้งในเขตเทศบาลนครยะลา คือ สนามกีฬาจารูพัฒนา สนามฟุตบอลหญ้าเทียม 7 คน สนามแบดมินตัน สนามเทนนิส สวนน้ำ และโรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์สวนขวัญเมือง รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของชมรมด้านกีฬาและนันทนาการ สังกัดเทศบาลนครยะลา

นอกจากนี้ยังจังหวัดยะลายังได้ทำการปิดสวนสาธารณะ 2 แห่งในเขตเทศบาลนครยะลา คือ สนามโรงพิธีช้างเผือกและสวนขวัญเมืองยะลา ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขอความร่วมมือประชาชนลดความเสี่ยงในการรวมตัวตามสถานที่ดังกล่าว

@@นอภ.เบตง สั่งตรวจเข้ม – ของดเดินทางช่วงฮารีรายอ

covidsouth20074

ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้กำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองยะลา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองผู้สัญจรไปมา โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางกลับช่วงเทศกาลฮารีรายอ อีดิลอัฎฮา ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้( 21 ก.ค.64) โดยให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถทุกคัน ที่เดินทางเข้าเมืองเบตง ซึ่งจะต้องแสดงเอกสารหนังสือรับรอง ยื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคของทางจังหวัด ทั้งการ สแกน QR code “Yala Safe Alert” เพื่อบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล – การเดินทาง และทำแบบประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง รวมถึง การมาตรการสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า การเดินทางกลับในช่วงเทศกาลฮารีรายอของชาวไทยมุสลิม ขอความร่วมมือประชาชน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากให้เคลื่อนย้ายออกนอกจังหวัด เนื่องจากรัฐบาลต้องการหยุดการเดินทางของประชาชน ให้อยู่บ้านหยุดเชื้อก่อนใน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.64 -2 ส.ค.64 เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19

@@โรงพยาบาลหลักนราฯ เตียงยังติดลบ 95 เตียง

covidsouth20073

ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 20 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้

จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 810 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 810 เตียง ไม่เหลือเตียงว่างเลย ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,085 เตียง ใช้ไป 2,044 เตียง คงเหลือ 41 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:146

จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 480 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 453 เตียง คงเหลือ 27 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,424 เตียง คงเหลือ 411 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:13

จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 591 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 532 เตียง คงเหลือ 59 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 771 เตียง คงเหลือ 317 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:110

จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 515 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 610 เตียง คงเหลือ -95 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,050 เตียง ใช้ไป 553 เตียง คงเหลือ 497 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:110

@@ปัตตานีป่วยใหม่เกือบ 300 ราย มีผู้ปฏิเสธรับการรักษาที่ยะลา 68 ราย

covidsouth200750

ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 20 ก.ค.64 มีดังนี้

จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 144 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 5,178 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,295 ราย รักษาหายแล้ว 2,850 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 43 ราย อยู่ระหว่างรอผล 2,231 ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,112 ราย, อ.กรงปินัง 560 ราย, อ.เบตง 318 ราย, อ.รามัน 387 ราย, อ.บันนังสตา 824 ราย, อ.กาบัง 201 ราย อ.ธารโต 345 ราย และ อ.ยะหา 441ราย

ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,295 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 150 ราย โรงพยาบาลเบตง 60 ราย รพช. 6 แห่ง 322 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 50 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 759 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 12 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 237 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 74 ราย Bubble & Seal (3 แห่ง) 236 ราย รักษาตัวที่บ้าน/ปฏิเสธการรักษา 68 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 327 ราย

จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 142 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.ระแงะ 27 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 17 ราย, อ.เจาะไอร้อง 4 ราย, อ.เมือง 22 ราย, อ.สุไหงปาดี 12 ราย, อ.ศรีสาคร 14 ราย, อ.ตากใบ 3 ราย, อ.ยี่งอ 12 ราย, อ.จะแนะ 10 ราย, อ.รือเสาะ 13 ราย และ อ.บาเจาะ 6 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 4,326 ราย รักษาหายสะสม 2,984 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 40 ราย

ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,019 ราย, อ.ระแงะ 502 ราย, อ.รือเสาะ 210 ราย, อ.บาเจาะ 363 ราย, อ.จะแนะ 277 ราย, อ.ยี่งอ 207 ราย, อ.ตากใบ 642 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 188 ราย, อ.สุไหงปาดี 210 ราย, อ.ศรีสาคร 222 ราย, อ.แว้ง 177 ราย, อ.สุคิริน 123 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 186 ราย

จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 297 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6,672 ราย รักษาหายแล้ว 3,683 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 74 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 157 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 772 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 652 ราย โรงพยาบาลชุมชน 412 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 37 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 166 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 713 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 6 ราย

จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 2,058 ราย, อ.หนองจิก 1,051 ราย, อ.โคกโพธิ์ 441 ราย, อ.ยะหริ่ง 773 ราย, อ.สายบุรี 312 ราย, อ.ไม้แก่น 100 ราย, อ.แม่ลาน 147 ราย, อ.ยะรัง 542 ราย, อ.ปะนาเระ 291 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 167 ราย, อ.มายอ 614 ราย และ อ.กะพ้อ 106 ราย

จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 121 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 78 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 11 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 4 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 28 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 9,451 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 9,428 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,782 ราย รักษาหายแล้ว 6,625 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 44 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,321 ราย

จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,333 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,592 ราย, อ.จะนะ 1,135 ราย, อ.สิงหนคร 672 ราย, อ.เทพา 666 ราย, อ.สะเดา 472 ราย, อ.สะบ้าย้อย 356 ราย, สทิงพระ 287 ราย, อ.บางกล่ำ 225 ราย, อ.นาทวี 158 ราย, อ.รัตภูมิ 97 ราย, อ.นาหม่อม 88 ราย, อ.ระโนด 84 ราย, ควนเนียง 59 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 38 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 54 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย

ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/100700-covidsouthdv.html