ร้องยุติตรวจ DNA ปอเนาะชะเมาสามต้น สายบุรี – กอ.รมน.ชี้หา“ไอ้โม่ง”โยงเหตุปะทะ
JASAD เรียกร้องฝ่ายความมั่นคง ยุติการตรวจ “ดีเอ็นเอ” นักเรียนปอเนาะบ้านชะเมาสามต้น และชาวบ้านในช่วงโควิด โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากเหตุปะทะ เพื่อเทียบเคียงหาตัวคนร้ายที่คาดว่าหลบหนีไปได้ ยืนยันทุกคนให้ความร่วมมือดี ไร้การบังคับข่มขู่
วันศุกร์ที่ 23 ก.ค.64 เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ (JASAD) รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประมาณ 11 คันรถกระบะ เดินทางไปยังสถาบันปอเนาะมะอูฮัดซูบูลุซซาลาม บ้านชะเมาสามต้น ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้โต๊ะครูหรือบาบอเจ้าของโรงเรียนปอเนาะทราบไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อให้บาบอประสานเด็กปอเนาะบางส่วนที่กลับบ้านจากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนัก ให้เดินทางกลับมาที่ปอเนาะอีกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่จะขอเก็บสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ ของเด็กนักเรียนปอเนาะเหล่านั้น
ขณะเดียวกันทาง JASAD ได้เข้าติดตามผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ จึงทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บดีเอ็นเอ และหลักฐานอัตลักษณ์บุคคล ด้วยการพิมพ์ลายนิ้วมือ 10 นิ้ว พร้อมฝ่ามือ และหยอดสำลี (Cotton Buds) บริเวณกระพุ้งแก้ม 2 ข้าง โดยผู้ถูกเก็บดีเอ็นเอและหลักฐานลายนิ้วมือ เป็นเด็กปอเนาะอายุระหว่าง 14-23 ปีอย่างน้อย 11 คน และ 2 คนในนั้นเป็นลูกชายของบาบอปอเนาะ และยังมีชาวบ้านผู้สูงอายุที่อาศัยร่ำเรียนที่ปอเนาะในยามค่ำคืนอย่างน้อย 3 คน ทราบชื่อบางส่วน ดังนี้
1.น.ส.นาบีตะ เจ๊ะกอ อายุ 42 ปี
2.นายมะรอฟีอิง หะยีสาอิ อายุ 48 ปี
3.นายมูฮำหมัดนาซีร หะยีสาอิ อายุ 19 ปี
4.นายมูฮำหมัดนาอีม หะยีสาอิ อายุ 14 ปี
5.นายสูดิง (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 50 ปี
6.นายแชโอะ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 70 ปี
8.นางเจะสลาเมาะห์ กือนิอายุ 77 ปี
9.นางบีดะ เจะหะ อายุ 63 ปี
10.นางมือเลาะห์ ดือราแม อายุ 62 ปี
กรณีการเก็บดีเอ็นเอ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ฝ่ายความมั่นคงสนธิกำลังสามฝ่ายปิดล้อม กระชับพื้นที่เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง บริเวณสถาบันปอเนาะมะอูฮัดซูบูลุซซาลาม บ้านชะเมาสามต้น จนเกิดการยิงปะทะกัน เป็นเหตุให้มีฝ่ายเจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และผู้ต้องหาถูกวิสามัญฯ เสียชีวิตในที่เกิด 2 ราย เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมตัว นายมาหะมะรอแปอิง หะยีสะอิ โต๊ะครูเจ้าของสถาบันปอเนาะ เข้าสู่กระบวนการซักถามที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเวลา 11 วัน
ทางเครือข่าย JASAD ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการเก็บดีเอ็นเอ ในขณะที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนักและหลายหมู่บ้านถูกปิดเส้นทางเข้าออก และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เคารพสิทธิมนุษยชน ตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination (CERD) ซึ่งประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.46 และมีผลใช้บังคับกับไทยเมื่อวันที่ 27 ก.พ.46 รวมถึงปฏิบัติตามระเบียบการเก็บตัวอย่าง “ดีเอ็นเอ” ตามที่กฎหมายกำหนด
ด้าน พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กรณีที่มีการนำกำลังเข้าไปบริเวณสถาบันปอเนาะมะอูฮัดซูบูลุซซาลาม บ้านชะเมาสามต้น เพื่อดำเนินการตรวจดีเอ็นเอของผู้ที่อยู่อาศัยในปอเนาะนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการบังคับใช้กฎหมายจนเกิดเหตุยิงปะทะกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เป็นเป้ และตรวจพบดีเอ็นเอ ซึ่งไม่ทราบว่าของใคร จึงได้ประสานทุกฝ่ายทั้งทหาร ปกครอง และตำรวจ รวมทั้งบาบอ เพื่อขอดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเทียบเคียง เป็นลักษณะของการสืบสวนสอบสวนที่ปฏิบัติกันทั่วไป และบาบอก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ไปบังคับ
จริงๆ แล้วการเก็บดีเอ็นเอ ต้องไปทำกันที่สถานีตำรวจ แต่เกรงว่าภาพเด็ก และคนชรา เข้าสถานีตำรวจจะไม่ดี จึงประสานกับบาบอๆ ก็อยากให้เรื่องจบเร็วๆ และเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของบาบอด้วย ก็เลยประสานทุกฝ่ายมาดำเนินการที่ปอเนาะ ไม่ได้เข้าไปข่มขู่หรือบังคับแต่อย่างใด ชาวบ้านยิ้มแย้ม กินข้าวร่วมกัน ทุกคนเต็มใจ และไม่ได้มีปัญหาอะไร ระหว่างปฏิบัติภารกิจเจ้าหน้าที่ได้ใส่หน้ากากทุกคน
พ.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุปปิดล้อมยิงปะทะก็มีผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปได้ด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใคร แต่ถ้าเรารู้ว่าใคร ก็จะได้ติดตามหรือดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป ถ้านำดีเอ็นเอมาเทียบเคียงแล้ว ไม่ใช่ของคนที่อยู่อาศัยในปอเนาะ ก็น่าจะสามารถปิดคดีนี้ได้
ชายวัย 53 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มาเยอะมาก นึกว่าจะมาเอาบาบอไปซักถามอีก ไม่รู้ว่าทำไมไม่จบสักที เพราะเป็นเรื่องน่ากลัว ตอนนี้ก็มีโควิดระบาดด้วย มีมาตรการห้ามรวมตัวเกิน 5 คน แต่นี่มากันเยอะ นับจำนวนไม่ถูก เรื่องตรวจดีเอ็นเอ แม้เราไม่ใช่คนร้าย เราก็กลัว ชาวบ้านกลัวว่าจะนำดีเอ็นเอของเราไปทำอะไรอย่างอื่น เป็นเรื่องของความหวาดระแวง
ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/100804-saiburidna.html