ปะทะสายบุรี วิสามัญดับ 1 กอ.รมน.แจงเหตุใช้กำลัง ยันใช้มาตรการเบาไปหนัก
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุ จนท.สนธิกำลังบังคับใช้กฎหมายใน ต.สายบุรี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังพบความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ยิงใส่ จนท. ก่อนเปิดฉากยิงต่อสู้กัน เป็นเหตุคนร้าย ถูกวิสามัญ 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย ยันใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 64 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจงเหตุเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง หลังพบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยเวลา 06.00 น. วันนี้ (30 ส.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 44 ได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมาย ติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ ม.4 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนกระทั่งเวลา 14.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ได้เตรียมสั่งการยกเลิกภารกิจถอนตัวกลับ คนร้ายซึ่งซ่อนอยู่บริเวณพุ่มไม้ได้เปิดฉากยิงใส่จำนวน 2 นัดเพื่อเปิดทางหนี จึงทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
ภายหลังการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ของคนร้ายตกอยู่ 1 กระบอก สำหรับคนร้ายที่เสียชีวิตคือ นายสุกรี สาอิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 หมาย จากเหตุร่วมกันยิง อส.ทพ.อภิสิทธิ์ มุกตาห์ เสียชีวิตเมื่อ 8 ต.ค.2558 และเหตุยิง ด.ต.พิทักษ์ รัตนหิรัญ เสียชีวิตในพื้นที่ บ.ยางตาหยาด ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 21 ก.ค.2560
ทั้งนี้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งการปฏิบัติทุกขั้นตอนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่คนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่โทรเข้ามาแจ้งเบาะแสให้แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.รมน.ภาค 4 ทราบโดยตรง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 06-1173-2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/crime/2181126
