ทหารพราน ตามรวบหนุ่มเผาตู้ ATM หลักฐานจากกล้องชัด โดน 3 ข้อหาหนัก
ไทยรัฐออนไลน์
ทหารพราน ตามรวบมือเผาตู้ ATM ที่ อ.ระแงะ หลังตรวจสอบภาพจากวงจรปิด พบหลักฐานมัดตัวชัดเจนขณะก่อเหตุ ถูกส่งดำเนินคดี 3 ข้อหา
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ส.ค. 64 พ.ต.ท.วรพล สุขแก้ว สว.สอบสวน สภ.ระแงะ เดินทางมานำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า ข้างสำนักงานเทศบาลตำบลมะรือโบตก ม.5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ ที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ขณะเผาตู้ ATM ของธนาคารออมสิน ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าของสำนักงานเทศบาลตำบลมะรือโบตก โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้ระบุไว้ เวลา 21.30 น. วันที่ 30 ส.ค. ได้มีชายวัยรุ่นคนก่อเหตุขี่จักรยานมาจอดไว้บริเวณหน้าตู้ ATM โดยใส่โสร่งและสวมเสื้อยืดสีแดง ที่หัวไหล่ซ้ายมีผ้าเช็ดตัวพาดไว้ เดินเข้าไปยังตู้ และเมื่อชายอีก 1 คน หลังจากกดเงินจากตู้ ATM แล้ว ได้ขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดติดเครื่องไว้ขับออกไป ชายคนดังกล่าวจึงได้นำผ้าเช็ดตัวที่พาดไหล่ออกมาจุดไฟ เมื่อไฟติดได้นำตั้งไว้ที่บริเวณบนตู้ ATM แล้วได้เดินไปขี่รถจักรยานที่จอดไว้หลบหนี
ต่อมามีชายวัยรุ่นอีก 1 คน ซึ่งนั่งคร่อมอยู่บนเบาะรถ จยย.เห็นไฟไหม้ตู้ ATM จึงได้วิ่งเข้าไปบอกนายอับดุลเลาะห์ สาและ ที่กำลังเข้าเวรยามอยู่ที่หน้าป้อมยามทางเข้า สำนักงานเทศบาลตำบลมะรือโบตก แล้วได้เดินออกมาเมื่อเห็นไฟลุกที่บริเวณตู้ ATM ชายคนดังกล่าวได้วิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ติดไฟออกจากตู้ ATM แล้วมาสลัดไฟเพื่อให้ไฟดับ แต่คนร้ายที่จุดไฟเผาได้ขี่รถจักรยานหลบหนีไปแล้ว
จากนั้น นายอับดุลเลาะห์ สาและ ยามสำนักงานเทศบาลตำบลมะรือโบตก จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4506 ซึ่งตั้งฐานละแวกจุดเกิดเหตุ และสามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ขณะขี่รถจักรยาน บริเวณหน้ามัสยิดปาลุกา ม.1 ต.มะรือโบตก ทราบชื่อ คือ นายอิสมาแอ มะแซ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 ม.2 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวนี้ ไว้เป็นหลักฐานมัดตัวนายอิสมาแอ ก่อนที่จะนำตัวไปสอบสวนเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการกรมทหารพรานที่ 45 และแจ้ง พ.ต.ท.วรพล สว.สอบสวน สภ.ระแงะ ได้รับทราบ และร่วมสอบสวนปากคำในเบื้องต้น และได้ส่งปัสสาวะไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลระแงะ ซึ่งผลการตรวจของ แพทย์หญิงปานกมล ซอวีระศักดิ์ศรี พบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ
โดย นายอิสมาแอ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้นำตัวนายอิสมาแอ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และแจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ 1. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย 2. วางเพลิงเผาทรัพย์สินผู้อื่น และ 3. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว.
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/crime/2181845