ออสเตรเลียพบวัคซีนแผ่นแปะต้านโควิด-19
คณะนัก วิจัย จาก มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ หรือ University of Queensland ของ “ออสเตรเลีย” เชื่อมั่นว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 แบบ “แผ่นแปะ” ตัวใหม่จะมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ ๆ มากกว่าวัคซีนเข็มฉีดแบบดั้งเดิม
การศึกษาในหนูทดลองที่เผยแพร่ในวารสาร วัคซีน (Vaccine) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า มีการพบวัคซีนแบบ “แผ่นแปะ” ชนิดที่ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความคงสภาพของโปรตีนส่วนหนามของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือเฮกซะโปร หรือ Hexapro ที่มีประสิทธิภาพต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ได้สูงถึง 11 เท่า เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดเดียวกันที่ฉีดด้วยเข็ม
ดร.คริส แมคมิลแลน เจ้าหน้าที่วิจัยจากสถาบันเคมีและอณูชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฯ เผยว่า “แผ่นแปะ” วัคซีนที่ประกอบด้วยเข็มจิ๋วขนาดเล็กความหนาแน่นสูง (microarray patch) จะสามารถส่งวัคซีนเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่อุดมไปด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันได้อย่างแม่นยำ
ซึ่ง แผ่นแปะวัคซีนเฮกซะโปร ถูกคิดค้นขึ้นโดยมหาวิทยาลัยฯ ร่วมกับแวกซ์แซส (Vaxxas) บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีชีวภาพในเมืองบริสเบน จะส่ง วัคซีน ทางผิวหนังเข้าสู่ร่างกายผ่านเข็มขนาดเล็กนับพันเข็ม
ทั้งนี้ คณะนัก วิจัย ได้ทดลองให้วัคซีนเฮกซะโปรทั้งแบบเข็มฉีดหรือแผ่นแปะในหนูทดลอง 8 ตัว ก่อนจะนำเลือดของพวกมันไปทดสอบกับตัวอย่างโรค “โควิด-19” หลายตัวอย่าง ซึ่งรวมถึงตัวอย่างสายพันธุ์ย่อยของ สายพันธุ์อัลฟา เดลตา และ โอไมครอน ซึ่งผล วิจัย พบว่า วัคซีน แบบ “แผ่นแปะ” จะกระตุ้นการตอบสนองทาง ภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อไวรัสฯ ทั้งสายพันธุ์โอไมครอนและเดลตา สูงกว่าวัคซีนแบบเข็มฉีด
สำหรับ ดร. เดวิด มุลเลอร์ หนึ่งในนักวิจัย กล่าวว่าผล วิจัย ครั้งนี้เป็นหลักฐานเบื้องต้นว่าวัคซีนแบบ “แผ่นแปะ” อาจช่วยต่อต้านการกลายพันธุ์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะพิสูจน์ได้
มุลเลอร์ กล่าวเสริม ว่า ” ประสิทธิภาพที่ลดลงของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเห็นได้ชัดจากสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งสามารถกลายพันธุ์ได้มากกว่า 30 ตำแหน่งบนโปรตีนหนาม พร้อมเสริมว่าสิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า วัคซีน แบบเข็มที่มีอยู่ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงจากโรค “โควิด-19 “
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี “แผ่นแปะ” วัคซีน จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรค “โควิด-19” และวัคซีนอื่นๆ ในอนาคต เนื่องจากสามารถขนส่งและใช้งานได้ง่าย รวมทั้งสามารถรักษาความคงตัวที่อุณหภูมิห้องได้นานถึง 30 วัน
ที่มา : https://www.komchadluek.net/covid-19/524520