ข่าวต่างประเทศ

งานแรกนายกฯ มาเลเซีย “จัดเงินช่วยคนจน”

เว็บไซต์ asiaone รายงานว่า ทันทีที่นายอันวา อิบราฮิม ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เขาได้ประกาศนโยบายช่วยเหลือคนจนในประเทศ เป็นอย่างแรก โดยจะจัดสรรงบประมาณ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือกลุ่มรายได้ต่ำ ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพสูงในมาเลเซียขณะนี้

โครงการเงินช่วยเหลือกลุ่มรายได้ต่ำในประเทศ จะเร่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะช่วยเหลือค่าครองชีพสำคัญ เช่น น้ำมันเชื้องเพลิง-น้ำมันพืช-ค่าไฟฟ้า -น้ำตาลและแป้งสาลี

โดยนายกรัฐมนตรีอันวา ฮิมราฮิม เผยว่า ความช่วยเหลือ จะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะช่วยเหลือชัดเจน ไม่เช่นนั้นแล้ว เงินช่วยเหลืออาจตกไปอยู่ในกลุ่มของผู้ร่ำรวย ส่วนกลุ่มผู้ร่ำรวยก็จะได้รับความช่วยเหลือที่แตกต่างไป โดยจะเข้าไปดูแลกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ส่วนความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการนั้น นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เสนอว่า อาจจะไม่ได้รับเงินอุดหนุน เช่น กลุ่มค้าสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะเวลานี้ราคาสูงอยู่แล้ว และดำเนินตามนโยบายด้านการเงินของรัฐบาลชุดก่อน ที่ต้องคุมเข้มงบประมาณ ในปี 2565 มาเลเซียใช้เงินเพื่อการอุดหนุนภาคธุรกิจ ไปแล้ว 23,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 860,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ เว็บไซต์ Asean Briefing รายงานว่า นายอันวา อิบราฮิม เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากภาคธุรกิจ ทันที่ที่ขึ้นรับตำแหน่ง ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ขยับตัวขึ้น ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.8 ซึ่งเป็นเสียงตอบรับในแง่บวกจากนักลงทุน หลังจากเกิดภาวะตึงเครียดทางการเมืองมานานตลอดระยะเวลา 1 ปี แต่กระนั้น นักลงทุนและต่างชาติยังต้องการเห็นหน้าตาของคณะรัฐมนตรีและนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาใหญ่ๆ ที่สัญญาไว้ เช่น เรื่องค่าครองชีพแพงจะแก้ด้วยด้วยวิธีใด การปฏิรูประบบราชการ การขาดแคลนแรงงานในประเทศทั้งแรงงานในสวนปาล์มและในโรงงานอุตสาหกรรม เวลานี้ แรงงานในห่วงโซ่อุปทานของมาเลเซีย ซึ่งผลิตสินค้าเพื่อส่งออกเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานโลก โลกต่างต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน และแรงงานภาคอุตสาหกรรม

สำหรับงบประมาณแผ่นดินในปี 2566 ซึ่งผ่านโดยรัฐฐาลชุดก่อนมีมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านดลอลาร์สหรัฐฯ (2.88 ล้านล้านบาท) ซึ่งให้ผลประโยชน์กับคนเชื้อชาติมาเลย์มากเป็นพิเศษ

เช่น ลดภาษีเงินได้จากร้อยละ 13 เหลือร้อยละ 11 สำหรับคนที่มีรายได้ปีละ 378,000 บาท-530,000 บาท / ลดภาษีเงินได้จากร้อยละ 21 เหลือร้อยละ 19 สำหรับคนที่มีรายได้ปีละ 530,000 บาท- 760,000 บาท / ลดภาษีกิจการ SME จากร้อยละ 17 เหลือร้อยละ 15 สำหรับเงินได้ปีแรก 760,000บาท

อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งหมดนี้อาจจะมีการทบวทวนใหม่ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลใหม่จะใช้วิธีที่รัดเข็มขัดมากขึ้น

สำหรับนายกรัฐมนตรีอันวา อิบราฮิมผู้นี้ มีประสบการณ์ด้านการเงินการคลัง เพราะเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของมาเลเซีย ในสมัยที่นายมหาธีร์ มูฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในปี 2541 แต่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนต้องโทษติดคุกหลายปี ก่อนจะออกมาสมัครรับเลือกตั้ง และได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จนพรรคของเขา สามารถจัดตั้งรัฐบาล และขึ้นเป็นผู้นำของมาเลเซียได้สำเร็จ จากที่ต้องต่อสู้ทางการเมืองมายาวนานถึง 24 ปี


ที่มา: รายการ อาเซียน 4.0 ออนไลน์ (4 ธ.ค. 2565)