ลุ้น 150 คนไทยรอลงเรือหนีสงครามซูดานข้ามทะเลแดงเข้าซาอุฯ
ทอ.ส่งเครื่องบินไปซาอุฯ รออพยพคนไทยจากซูดาน คาดกลุ่มแรกกลับถึงไทย 4 ทุ่มวันพฤหัสฯ 27 เม.ย. แต่ยังต้องลุ้นหนักอีก 150 คน รอลงเรือข้ามทะเลแดง ผู้ปกครองนักศึกษาชายแดนใต้สุดวิตก ลูกเล่าให้ฟังอาหารใกล้หมด ถ้ารอเรือนานอดแน่ ศอ.บต.เผยนักเรียนจากปลายด้ามขวาน มี C-130 ส่งต่อถึงท่าอากาศยานปัตตานี
ปฏิบัติการช่วยเหลืออพยพคนไทยในซูดาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษามุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความคืบหน้าสำคัญ นั่นก็คือกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปรอรับที่ซาอุดิอาระเบียแล้ว แต่ปัญหาคือการเดินทางจากซูดานมายังซาอุฯ ของคนไทยในซูดาน ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพซูดาน กับกองกำลังกึ่งทหาร RFS ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะลดความรุนแรงลง โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ศพแล้ว
ช่วงดึกของวันอังคารที่ 25 เม.ย.66 พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ (เสธ.ทอ.) พร้อมด้วยผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปแผนการบินและแผนการปฏิบัติในการส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศ ได้แก่ เครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 เครื่อง เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เพื่ออพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในสาธารณรัฐซูดานกลับประเทศ ภายใต้การประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ทำการอพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดานโดยทางบกและทางเรือไปยังจุดนัดหมาย เพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศเดินทางไปรับ
สำหรับเครื่องบิน Airbus A340-500 ออกเดินทางเวลา 23.59 น. (วันที่ 25 เม.ย.) บินตรงไปยังท่าอากาศยาน คิง อับดุลาซิซ ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง ส่วนเครื่องบิน C-130 ออกเดินทางเวลา 00.10 น. และ 00.25 น. (วันพุธที่ 26 เม.ย.) ใช้เวลาบินประมาณ 17 ชั่วโมง (แวะเติมน้ำมันที่ดูไบ) โดยคาดว่าเที่ยวบินขากลับที่จะรับคนไทยกลับประเทศ จะเดินทางกลับถึงกองบิน 6 ดอนเมือง ในวันพฤหัสบดีที่ 27 เม.ย.66 เวลาประมาณ 22.00 น. จำนวน 1 เที่ยวบิน (Airbus A340-500) และวันศุกร์ที่ 28 เม.ย.66 เวลาประมาณ 09.00 น. จำนวน 2 เที่ยวบิน (C-130) ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งจำนวนผู้เดินทางกลับมาพร้อม 3 เที่ยวบินนี้ จำนวน 223 คน
ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจอพยพคนไทยจากพื้นที่ขัดแย้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างปลอดภัย สามารถดูแลและช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนกลับประเทศได้โดยสวัสดิภาพ กองทัพอากาศได้จัดชุดแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อตรวจสุขภาพขั้นต้นและเฝ้าระวังสุขภาพระหว่างการเดินทางให้แก่ผู้อพยพ และกำลังพลที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจด้วย
@@ ผบ.ทอ.ยอมรับบินรับคนไทยกลับจากซูดานไม่ง่าย
พล.อ.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้มีความซับซ้อนและต้องระมัดระวังมากกว่าภารกิจที่ประเทศตุรกี (ช่วงเกิดแผ่นดินไหวใหญ่) เพราะครั้งนี้ใช้ทรัพยากรมากกว่าเดิม โดยใช้เครื่องบินถึง 3 เครื่อง และกำลังคนเกือบ 90 คนที่เดินทางไป เพราะต้องมีการตรวจคัดกรองหลายขั้นตอน อีกทั้งยังมีความซับซ้อนในการเดินทาง โดยขาไป C-130 ต้องจอดเติมน้ำมัน 1 ครั้ง ส่วนขากลับจอดเติมน้ำมัน 2 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการใช้แผนบริหารความเสี่ยง หากจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาหน้างาน เพราะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า คนไทยกลุ่มสุดท้ายจะสามารถขึ้นเรือจากเมืองพอร์ตออฟซูดาน มาที่ฝั่งเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย ได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นอาจต้องใช้ C-130 ไป operation (ปฏิบัติการพิเศษ) หรือบินล้วงลูกเข้าไปรับคนไทยออกมา หาก 133 คนไทยยังไม่สามารถขึ้นเรือได้ เพราะตอนนี้ที่เมืองพอร์ตออฟซูดานเต็มไปด้วยผู้คนที่มาแย่งกันขึ้นเรือ ถ้าคนไทยยังกลับไม่ได้ ก็อาจต้องใช้ C-130 บินไปรับกลับมา โดยบินประมาณ 2 เที่ยวบิน แต่การจะไปได้ต้องมีความปลอดภัยเพียงพอ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความปลอดภัย ก็ยังไม่สามารถบินไปได้ ตอนนี้ก็ภาวนาให้ 133 คนไทยในล็อตที่ 2 สามารถขึ้นเรือกลับมาได้ แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินการขึ้นเรือได้เช่นกัน
ขณะเดียวกันได้มีการติดต่อประสานงานกับสถานทูตไทยในกรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถือว่าโชคดีที่มีการเปิดสถานทูตในซาอุดิอาระเบีย ทำให้มีคนไทยคอยประสานงาน เพราะที่ผ่านมามีแต่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์อยู่ในซูดาน ซึ่งเป็นคนต่างประเทศ ทำให้การประสานงานค่อนข้างลำบาก
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศก็อยากเดินทางตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ติดที่การขออนุญาตผ่านน่านฟ้า เพราะเราต้องเอาเครื่องทหารบินผ่านน่านฟ้าหลายประเทศ ก็ต้องติดต่อหลายประเทศ ซึ่งบางประเทศบินไปได้เร็ว เพราะมีสถานทูตอยู่ในประเทศนั้น จึงสามารถขอตรงได้ แต่ไทยไม่มีสถานทูตก็ถือเป็นข้อจำกัด ตอนนี้พยายามทุกวิถีทางให้คนไทยข้ามฟากมาให้ได้หมด
ทั้งนี้ หากจะมีปฎิบัติการพิเศษบินเข้าซูดานเพื่อรับคนไทยโดยตรง ก็ต้องขอทางการซูดานก่อน แต่จะประสานกับใคร เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนอนุมัติ แต่กองทัพทัพอากาศก็เล็งสนามบินแห่งหนึ่งในเมืองพอร์ตออฟซูดานไว้ ถ้ามีความปลอดภัยและจำเป็น เราก็บินไป พร้อมยืนยันว่าเครื่องบิน C-130 สามารถลงจอดที่สนามบินที่นั่นได้ (ถ้าบินไปจริง จะเรียกบินต่อระยะ หรือ แอร์บริท คือ บินลงรอรับคนขึ้น โดยไม่ดับเครื่องยนต์ เพื่อพร้อมบินขึ้นทันที)
@@ ระทึกคนไทยล็อตแรก 82 คน ถึงท่าเรือซาอุฯ
วันพุธที่ 26 เม.ย.66 เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบีย กระทรวงต่างประเทศรายงานว่า นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ได้มารอต้อนรับคณะคนไทย 82 คนที่เดินทางออกจากประเทศซูดานโดยเรือของทางการซาอุดิอาระเบีย ข้ามทะเลแดงมาถึงเมืองเจดาห์ ที่ King Faisal Navy Base โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจะพาผู้เดินทางไปยังโรงแรมที่พัก พร้อมแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์และตรวจสุขภาพต่อไป
หลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองพบว่า คณะคนไทยทั้ง 82 คนยังมีขวัญและกำลังใจดี แต่พบมี 2 คนที่มีอาการเจ็บป่วย โดยเจ้าหน้าที่ได้พาคณะคนไทยทั้งหมดเข้าพักที่โรงแรม เพื่อพักผ่อนเตรียมเดินทางบินในวันรุ่งขึ้น (27 เม.ย.) ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A-340 ถึงดอนเมืองตามแผนเวลา 22.00 น. ทั้งนี้จากคัดกรองแล้วมีคนไทย 4 คนที่จะประสงค์ไม่เดินทางกลับ เพราะมีญาติอยู่ในซาอุดิอาระเบีย ทำให้ยอดที่จะเดินทางกลับพรุ่งนี้เหลือแค่ 78 คน
ส่วนคนไทยชุดที่ 2 ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะสามารถขึ้นเรือข้ามมาได้เมื่อใด แต่คาดหมายว่า จะสามารถข้ามมาได้ในเช้าวันที่ 27 เม.ย. ใช้เวลาเดินทางราว 20 ชั่วโมง แล้วเข้าที่พักรอการคัดกรอง จึงประเมินว่าพร้อมเดินทางกลับไทยในวันที่ 29 เม.ย. และถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในวันเดียวกัน แต่ทั้งนี้ต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
@@ ประสานซาอุฯ อำนวยความสะดวกอพยพคนไทย
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยความคืบหน้าปฏิบัติการอพยพคนไทยออกจากซูดานว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ได้เข้าพบ Major General Pilot Staff Abdullah bin Muhammad Al-Zahrani ผู้บัญชาการฐานทัพอากาศ King Abdullah Air Base รวมถึงผู้บริหารท่าเรือเมืองเจดดาห์ เพื่อประสานงานเตรียมอำนวยความสะดวกแก่คณะคนไทยจากซูดานที่จะเดินทางมาถึง โดยในวันพุธที่ 26 เม.ย. เวลา 09.30 น. เครื่องบิน A340-500 ของกองทัพอากาศ ได้ลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ King Abdulaziz เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย โดยเครื่องบิน C130 H อีก 2 ลำกำลังทยอยเดินทางถึงที่หมายตามกำหนดเวลา
สำหรับคนไทยและครอบครัวชาวต่างชาติอีก 136 คน นอกเหนือจาก 82 คนที่ลงเรือถึงซาอุดิอาระเบียแล้วนั้น ได้ลงทะเบียนกับทางการซาอุฯ และรอขึ้นเรือเที่ยวถัดไปอยู่ที่ท่าเรือของเมือง Port Sudan โดยนักเรียนไทยอีก 5 คนที่พำนักอยู่นอกกรุงคาร์ทูม (เมืองหลวงของซูดาน) และประสงค์จะอพยพ อยู่ระหว่างเดินทางมาสมทบกับกลุ่มที่กำลังจะออกเดินทางไปเมืองเจดดาห์
@@ นศ. – คนไทย 150 คน ยังรอขึ้นเรือออกจากซูดาน
หลังจากที่คณะคนไทยชุดแรก 82 คนเดินทางโดยเรือไปถึงเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบียแล้ว ยังพบว่า มีนักศึกษาและคนไทยที่ยังเหลืออีกประมาณ 150 คน ที่อยู่ระหว่างรอขึ้นเรือในเที่ยวต่อไป เพื่อเดินทางออกจากประเทศซูดาน
ผู้ปกครองนักศึกษารายหนึ่งในกลุ่ม 150 คน ซึ่งเป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันพุธที่ 26 เม.ย. ตามเวลาในประเทศไทย นักศึกษาและคนไทยอีกกว่า 150 คนที่รอขึ้นเรือ ได้รับการแจ้งข่าวว่า อาจจะได้ขึ้นเรือได้เวลา 6 โมงเย็นวันเดียวกัน (ตามเวลาไทย) หรือไม่ก็อาจจะต้องรอต่อไปถึงวันรุ่งขี้น ซึ่งทุกคนที่รอขึ้นเรือในตอนนี้ ยังพอมีอาหารและน้ำอยู่ ซึ่งถ้าเรือออกใน 1-2 ชั่วโมงนี้ ทุกคนก็พอจะอดทนกันได้
“การเดินทางมาขึ้นเรือของเด็กๆ นั้น ได้รับการประสานให้มาขึ้นเรือช่วงเช้าวันพุธที่ 26 เม.ย. โดยให้ไปรอตรวจเอกสารจนได้ตั๋วครบทุกคนก็ไปรอที่ท่าเรือ แต่พอเรือมาปรากฏว่า ทุกคนไม่ได้ขึ้น เด็กๆ และคนไทยที่มารอทุกคนไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ส่วนคนที่ได้ขึ้นเรือไปนั้นเป็นคนจากประเทศอื่น ทำให้คนไทยทั้งหมด 150 คนก็ต้องรอต่อไป” ผู้ปกครองนักศึกษา เล่าด้วยความวิตก
@@ อาหาร-น้ำ อาจไม่พอหากต้องรอขึ้นเรือนาน
ผู้ปกครองรายเดิม เล่าอีกว่า เด็กๆ บอกว่า ซาอุฯ ต้องการจะช่วยเหลือทุกคน แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่าใครได้ขึ้นเรือไปแล้วบ้าง อาจช้าหน่อย ทุกคนก็เข้าใจและพร้อมจะอดทน โดยรวมก็ถือว่าทุกคนยังปลอดภัยดีหมด มีเพียงแค่ว่าอาหารมีน้อย เงินที่ได้รับมาล่าสุดก็เพียงพอซื้อน้ำและของกินได้นิดหน่อย ซึ่งหวังว่าเจ้าหน้าที่จะโอนเงินมาเพิ่ม ถ้าต้องรอใช้เวลารอเรือต่อไปไปอีกตามที่ได้รับแจ้งมา
“ตอนนี้บางคนเริ่มอ่อนล้าบ้าง แต่บางคนก็ได้ไปขออาบน้ำจากบ้านคนซูดานที่นั่น เพราะคนที่นั่นใจดีมาก บางคนก็นอนพักและนั่งเฝ้าข่าวการแจ้งเตือน”
ผู้ปกครองนักศึกษา เล่าด้วยว่า กลุ่มนักศึกษาและคนไทยที่รอขึ้นเรือ จำนวน 150 คนนี้ ได้รับเงินช่วยเหลือในเรื่องอาหาร ซึ่งเพียงพอกับอาหาร โดยได้ซื้อเป็นข้าวเหนียวไก่ทอด รวมถึงเตรียมอาหารและน้ำเพื่อขึ้นไปกินระหว่างนั่งเรืออีก 1 มื้อ แต่เมื่อทุกคนไม่ได้ขึ้นเรือ อาหารและน้ำที่เตรียมมาก็ต้องนำออกมากินก่อน แต่ต่อมาได้มีการโอนเงินมาเพิ่มอีกราวๆ 6 พันบาท ก็ถือว่าสามารถซื้อน้ำดื่มและของกินได้นิดหน่อย เพียงพอถ้าหากเรือออกเลย แต่ถ้าต้องรออีกนานก็คงไม่มีน้ำและอาหารกิน
@@ คาด นศ.ไทยจากซูดานถึงชายแดนใต้เที่ยวบินแรก 28 เม.ย.
ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา นายชนธัญ แสงพุ่มรองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการนำนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐซูดานกลับสู่ภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้พบว่า มีจำนวนนักเรียน นักศึกษาไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศซูดาน จำนวน 212 คน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ประชุมมีการวางแผนที่จะนำนักเรียน นักศึกษาไทยจากซูดานกลับคืนสู่ภูมิลำเนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แบ่งออกเป็น 2 เที่ยวบิน คือ
เที่ยวบินที่ 1 จะเดินทางในวันที่ 27 เม.ย.66 จำนวน 145 คน คาดว่าจะถึงท่าอากาศยานทหาร (บน.6) ดอนเมืองประเทศไทยในเวลา 22.00 น.
เที่ยวบินที่ 2 จะเดินทางในวันที่ 28 เม.ย.66 จำนวน 70 คน คาดว่าจะถึงท่าอากาศยานทหาร (บน.6) ดอนเมืองประเทศไทยในเวลา 09.00 น.ของอีกวันหนึ่ง และจะเดินทางกลับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ ถึงท่าอากาศยานปัตตานี จากนั้น ศอ.บต. จะร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จะอำนวยความสะดวกแก่นักเรียนนักศึกษาทุกคน กลับภูมิลำเนาสู่อ้อมกอดของครอบครัวทุกคนอย่างปลอดภัย
ขอบคุณ อัญชลี อริยกิจเจริญ ผู้สื่อข่าวสายทหาร เนชั่นทีวี เอื้อเฟื้อข่าว ทอ.
ที่มา: isranews.org