ยูเครนผลิตไฟฟ้าส่งออกอีกครั้ง หลังรัสเซียโจมตีระบบพลังงาน
ยูเครนกลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อการส่งออกได้เป็นครั้งแรกใน 6 เดือน หลังจากระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ได้รับการซ่อมแซมจากการถูกโจมตีจากรัสเซียในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 หรือปีที่แล้ว โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครน ถูกรัสเซียพุ่งเป้าโจมตีอย่างยาวนานต่อเนื่อง ทำให้ยูเครนเกิดวิกฤตด้านพลังงานถูกตัดกระแสไฟฟ้า และมีการดับไฟฟ้าให้ใช้งานได้เป็นช่วงเวลา ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา
ยูเครนถูกรัสเซียบังคับให้ หยุดการส่งออกกระแสไฟฟ้า แต่ตอนนี้ ยูเครนกำลังกลับมาขายกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง
เฮอร์มัน ฮาลูเชนโก รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเครน เซ็นคำสั่งให้มีการส่งออกไฟฟ้าได้ แม้ภารกิจหลักในการป้อนกระแสไฟฟ้ายังคงเป็นการจ่ายไฟในประเทศ เขาบอกว่า ยูเครนผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนเกินได้มาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน และขณะนี้ยูเครนไม่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขใด ๆ
“ฤดูหนาวอันยากลำบากได้ผ่านไปแล้ว” เขากล่าว พร้อมบอกว่า ขั้นต่อไปคือการเริ่มกลับมาส่งออกกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ยูเครนสามารถติดต่อแหล่งทุนทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการก่อสร้างและ ซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานที่เสียหายจากการถูกโจมตี
อย่างไรก็ตาม ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) บริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครน ผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ บอกว่า ยูเครนไม่ควรไว้วางใจว่า รัสเซียจะหยุดการโจมตี
ยูเครเนอร์โก ระบุว่า รัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตีระบบพลังงานและไฟฟ้าของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนโจมตีจำนวน 1,200 ครั้ง ในช่วงสงครามที่ผ่านมา โดยทางยูเครเนอร์โก ชี้ว่า การพุ่งเป้าโจมตีของรัสเซียเป็น “ความพยายามใหญ่หลวง” ที่จะทำลายระบบพลังงานของประเทศในชาติยุโรป
ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ชาวยูเครนบางส่วนต้องย้ายไปอยู่ศูนย์พักพิงที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ยืดหยุ่น ในศูนย์ดังกล่าวมีกระแสไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน อาหารและยา ไว้รองรับผู้ประสบภัยความหนาวและสงคราม
โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำทุกแห่งในยูเครนได้รับความเสียหาย หลังจากรัสเซียปฏิบัติโจมตีเน้นเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ยูเครนยังสูญเสียอำนาจในการควบคุมโรงไฟฟ้าซาปอรีเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 หรือเพียงหนึ่งเดือนหลังจากรัสเซีย ส่งทหารบุกยูเครนในช่วงปลายเดือน ก.พ.
เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ยูเครน ตั้งเป้าว่าจะเก็บรายได้ 1.5 พันล้านยูโร จากการขายกระแสไฟฟ้าไปยังยุโรป ตลาดส่งออกพลังงานหลักตั้งแต่เกิดสงคราม