ข่าวในประเทศพัฒนาชุมชนคนมุสลิม

ขอโทษ-สั่งย้าย! ผู้หมวดสั่งธำรงวินัย 14 ตร.โก-ลก

ว่อนโซเชียลฯ ลงโทษตำรวจโก-ลกถอดเสื้อพร้อมรองเท้ายืนกลางแดดร้อนช่วงเที่ยงกลางโรงพัก ผู้กำกับฯแจงเป็นการลงทัณฑ์ตามระเบียบ เหตุกระทำผิดจริง ไร้รุนแรง ไม่มีแตะเนื้อต้องตัว ปัดข่าวเป็นลม-อาเจียน หามส่งโรงพยาบาล ด้านผู้การนราฯ เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง ให้ขอโทษ ปรับความเข้าใจ พร้อมปรับสายงานร้อยเวรคนออกคำสั่งชั่วคราว ลดการกระทบกระทั่ง

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “พระจันทร์ลายกระต่าย V3” ได้ลงเรื่องราวร้องทุกข์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายหนึ่ง ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.66 ได้ถูกลงโทษพร้อมกับเพื่อนตำรวจรวม 14 นาย ด้วยการให้ถอดเสื้อและรองเท้ายืนตากแดดร้อนตอนเที่ยงวัน ในยืนท่าตรงห้ามขยับ จนผ่านไป 1 ชั่วโมงถึงให้เปลี่ยนท่าตามระเบียบพัก ทำตำรวจที่ถูกลงโทษ มีทั้งหน้ามืด อาเจียนและล้มทั้งยืนหลายนาย จนเวลา 14.30 น. ถึงจะมีการสั่งให้พอ

โดยสาเหตุความผิดเกิดจากที่ร้อยเวรได้เข้าไปหาเอกสารที่ห้องคดี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอยู่เลยสั่งลงโทษ เจ้าหน้าที่ทั้งสายงานรวมทั้งหมด 14 นาย และผลของการลงโทษครั้งนี้ลูกน้องบางคนตัวแดง บางคนมีรอยไหม้ บางคนมีตุ่ม ผุพองด้านหลัง ต้องนอนคว่ำหน้า เพราะหลังไหม้ เป็นการลงโทษที่เกินไปไหมสำหรับความผิดของคน 1-2 คน แต่ทำโทษทั้งสายงาน โดยที่พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

ล่าสุดวันนี้ ( 22 พ.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อติดตามข้อเท็ขจริงที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับ จ.ส.ต.อดิศร สุขนวล ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 14 คน ที่ถูกลงโทษ กล่าวว่า วันนั้นการลงโทษก็มีแค่ให้ยืนตามระเบียบพัก ยืนท่าตรงก็ ซึ่งแต่ละท่าจะให้เปลี่ยนท่าก็ราวๆ 1 ชั่วโมง คนสั่งก็ไม่มีการแตะต้องตัวแต่อย่างใด ส่วนข่าวที่ออกไปว่า มีการเป็นลมล้มทั้งยืน ต้องห้ามส่งโรงพยาบาลไม่เป็นความจริง ทุกคนยืนกันทุกคนคนไหนที่ไม่ไหวก็ได้ขออนุญาตนั่ง พอได้นั่งสักพักก็ลุกขึ้นมายืน

ขณะที่ พ.ต.ท.คำพันธ์ แสนทวีสุข รอง ผกก.สอบสวน หน.งานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ข้อเท็จจริงการลงทัณฑ์ของผู้บังคับบัญชาในครั้งนี้ เนื่องจากว่า มีการบกพร่องต่อระเบียบหน้าที่เป็นหลายๆ ส่วน เป็นเนื้อหาของทางราชการเกี่ยวกับระเบียบหน้าที่ ว่ามีการตักเตือนลงทัณฑ์เป็นบางส่วนก็มีและได้ตักเตือนมาหลายครั้ง ที่นี่การลงทัณฑ์เนื่องจากเป็นภาพรวม เราพยายามทำให้เป็นภาพรวม เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งเราก็ลงทัณฑ์ไปตามระเบียบไม่มีอะไรที่รุนแรง ที่ไม่มีอะไรนอกเหนือจากระเบียบของตำรวจเขาวางไว้ ไอ้ที่ว่าไม่สบายนั้นถึงกับเป็นลมนั่นไม่ ผมก็ควบคุมการปฏิบัติอยู่ตลอดและใกล้ชิดการลงทัณฑ์

ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งไปราชการต่างพื้นที่ เมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งหนังสือชี้แจงผ่านมายังผู้สื่อข่าว ซึ่งมีใจความสำคัญ 9 ข้อดังนี้

1.ภาพที่ปรากฏดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค.66 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ ลานหน้า สภ.สุไหงโกลก

2.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในภาพเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกงานคดี ประจำ สภ.สุไหงโกลก จำนวน 14 นาย และมี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง พงส.(สบ 1) สภ.สุไหงโกลก เป็นผู้ฝึกแถว

3.ตลอดระยะเวลาการฝึกธำรงวินัย ได้มี พ.ต.ท.คำพันธ์ แสงทวีสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก และพ.ต.ท.นที จันทร์แสงศรี สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก หัวหน้างานคดี ได้ควบคุมการปฏิบัติและชี้แจงถึงเหตุบกพร่องในปฏิบัติหน้าที่และแนวทางในการปฏิบัติงานราชการต่อไป

4.ข้อบกพร่องในการปฏิบัติ สาเหตุมาจากทางพนักงานสอบสวนหลายๆนาย ได้ประสบก็คือ
4.1 เจ้าหน้าที่ธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่เขียนประจำวัน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่และไม่สามารถติดต่อได้ และบางครั้ง พงส.ต้องเขียนประจำวันด้วยตนเอง
4.2 เจ้าหน้าที่ห้องคดี ไม่อยู่ประจำห้องคดี ทำให้ไม่สามารถประสานงานเรื่องสำนวนได้ทันท่วงที
4.3 การลงข้อมูลระบบ crime ยังมีการลงข้อมูลผิดพลาดและไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นต้น
4.4 หลายครั้งที่ทางผู้บังคับบัญชาต้องระดมสายงานอื่น มาช่วยบันทึกข้อมูลของงานสอบสวนและกำชับให้รับผิดชอบหน้างานตนเอง ไม่ให้มีลักษณะงานค้าง

5.ก่อนที่จะมีการลงโทษครั้งนี้ ทาง พงส.รวมถึงหัวหน้างานสอบสวน ได้มีการแนะนำการปฏิบัติและได้ว่ากล่าวตักเตือนไว้แล้ว แต่การปฏิบัติยังไม่ดีขึ้น

6.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นายแต่งกายชุดฝึกเขียว มารวมพลหน้า สภ.และสั่งท่า ตามระเบียบพัก และมี รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ,สว.(สอบสวน)ฯและร้อยเวร สอบสวน ได้ชี้แจงในการปฏิบัติปฏิบัติหน้าที่และความช่วยเหลือในการทำงานและรู้หน้าที่ของตนเอง

7.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด มีเพียงสั่งท่าบุคคลท่ามือเปล่าเท่านั้น

8.หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีภาพปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ถึงกรณีการลงโทษดังกล่าว ทาง ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประชุมระดับ รอง ผกก.ทุกนาย และรีบรายงานผู้บังคับบัญชา (ผบก.ฯ) ทราบ สิ่งจะดำเนินการต่อไป

ต่อมาในเวลา13.00 น. พล.ต.ต.อนุรุท อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้มายัง สภ.สุไหงโกลก และได้เรียก พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะผกก.สภ.สุไหงโกลก,พ.ต.ท.นิติ สุขสันต์ รอง ผกก.ปฯ,พ.ต.ท.วิสัณห์ รักมาก รอง ผกก.(สส.)ฯ,ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 14 นาย มาพูดคุยและสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น

โดยได้ความว่า ภาพที่แพร่ได้โลกสื่อออนไลน์ดังกล่าว เป็นภาพของการรับการฝึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 13.00 น. โดยมี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง เป็นผู้ฝึก และร.ต.ท.ชาญวิทย์ฯ ให้การว่า ได้สั่งทั้ง 14 นาย ถอดเสื้อและฝึกช่วงบ่ายวันดังกล่าวจริง

พล.ต.อนุรุท อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้อธิบายถึงการส่งเสริมการฝึก ให้พอเหมาะพอควรและดุลพินิจในการฝึก เพราะที่ สภ.ไม่ใช่ สถานที่การฝึก เพื่อไม่ได้เกิดความเดือนร้อน เสียหายและ ร.ต.ท.ชาญวิทย์ฯ ได้กล่าวขอโทษกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อปรับความเข้าใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นาย ไม่ติดใจในการกระทำดังกล่าวอีกต่อไปและสามารถร่วมงานใน สภ.เดียวกันได้ต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อนุรุท ได้สั่งให้ ร.ต.ท.ชาญวิทย์ฯ เปลี่ยนสายงานเป็นการชั่วคราว เพื่อจะได้ไม่กระทบกระทั่งในงานและหลังจากผ่านระยะเวลาหนึ่ง จะได้มาทำงานสายงานเดิมอีกครั้ง

ที่มา: ขอโทษ-สั่งย้าย! ผู้หมวดสั่งธำรงวินัย 14 ตร.โก-ลก (isranews.org)