ฟันธงแล้ว! รองแม่ทัพ 4 เปิดชัดผู้ประกอบการพลุระเบิดไม่ได้ขออนุญาตหลัง ม.ค.66

รองแม่ทัพภาค 4 แจงแล้ว! ทหารแค่ตรวจสอบการขนย้ายและออกใบอนุญาตร้านค้าจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ กรณีมูโนะใบอนุญาตถึงแค่ 31 ม.ค.66 จากนั้นไม่มีการขออนุญาตขนย้ายเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ทิ้งปริศนาความผิดใคร ประเมินความเสียหายโกดังพลุระเบิด 500 ล้านบาท ฝ่ายปกครองยะลาเข้าตรวจสอบโกดัง-ร้านจำหน่ายพลุในเขตเทศบาล หลังโซเชียลฯแจ้งเบาะแส หวั่นเกิดโศกนาฎกรรมซ้ำร้อย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค.66 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางเข้าตรวจความพร้อมเพื่อต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่จะเดินทางลงพื้นที่ชุมชนมูโนะ เพื่อติดตามและเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดใจกลางตลาดบ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.66

พล.ต.ปราโมทย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่วถึงความรับผิดชอบในการควบคุมดอกไม้เพลิง ซึ่งมีการระบุเป็นความรับผิดชอบของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 หรือ ผอ.รมน.ภาค 4 ว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. จะไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการออกมาตราการควบคุมในการขนย้ายว่าถูกต้องตามระเบียบ ถูกต้องตามใบอนุญาตที่มีไว้หรือไม่ อย่างไร

“เราต้องตรวจสอบใบอนุญาตของร้านค้า ผู้ประกอบการ กับยอดตามที่ทางบริษัทจะมาส่งว่า ยอดถูกต้องตรงกันหรือไม่ เราต้องมีการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบการของผู้ประกอบการว่า ได้อนุญาตให้มีการเปิดเป็นร้านค้าถูกต้องหรือไม่ แล้วก็มีการตรวจสอบความเชื่อมโยงของบริษัทร้านค้าต่างๆ ว่า เชื่อมโยงกับผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หรือไม่อย่างไร”

“ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนนี้ ทางผู้อำนวยการความมั่นคงภายในภาค 4 ก็จะเซ็นอนุญาตให้มีการขนย้ายดอกไม้เพลิง พลุ หรือประทัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ เพื่อส่งให้ผู้ประกอบการเพื่อนำไปใช้ในงานประเพณี หรือเทศกาลต่างๆ รวมทั้งบางส่วนที่นำไปในประเทศมาเลเซีย”

พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวถึงกรณีโกดังที่ตลาดมูโนะ ซึ่งเก็บพลุ ดอกไม้เพลิงจำนวนมาก และเกิดระเบิดขึ้นว่า จากการตรวจสอบพบเอกสารอนุญาตล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 และไปสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.66 รวมระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เราได้กำหนดเวลาในการขออนุญาตเป็นเวลา 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง หลังจากนั้นได้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่ได้มีการขออนุญาตในการขนย้ายดอกไม้เพลิง ประทัด พลุ เข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใด

@@ ประเมินความเสียหายโกดังพลุระเบิด 500 ล้าน

วันเดียวกันนี้ พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส (ผบ.ฉก.นราธิวาส) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 13 อำเภอของนราธิวาส จัดกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์เดินทางไปที่ตลาดมูโนะ เพื่อกระจายกำลังกันเข้าช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ผ่านการตรวจสอบและประเมินความเสียหายแล้ว โดยเน้นการซ่อมแซมหลังคาที่ได้รับจากภาครัฐและเอกชนบริจาค เพื่อให้เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวได้กลับเข้าไปอยู่อาศัยและป้องกันทรัพย์ได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมา รวมทั้งเก็บกวาดซากปรักหักพังของบ้านแต่ละหลัง นำขึ้นรถบรรทุกของหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส นำไปทิ้ง เพื่อเป็นการเคลียร์พื้นที่

ส่วนการสำรวจเพื่อประเมินความเสียหายของบ้านเรีอนประชาชนรอบนอก โดยเจ้าหน้าที่กองช่างจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนกว่า 100 คน ได้สำรวจไปแล้ว มีทั้งหมด 682 หลัง จำนวนนี้ไม่รวมถึงจุดที่ได้รับความเสียหายจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดที่เป็นรัศมีรอบใน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 500 ล้านบาท และมีรถยนต์เสียหาย 39 คัน รถจักรยานยนต์ 25 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน

@@ อบต.ยะรม – องค์กรมุสลิมเบตง นำเงินบริจาคช่วยชาวมูโนะ

ทางด้านกำลังใจจากผู้คนในพื้นที่อื่นๆ ยังคงหลั่งไหลเข้ามูโนะ ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมคณะ เดินทางเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ ต.มูโนะ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจกับเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย พร้อมมอบเงินบริจาคเป็นธารน้ำใจจาก อบต.ยะรม ผู้ประกอบการ และน้ำใจจากองค์กรมุสลิมเบตง รวมถึงน้ำใจจากชาวบ้านในพื้น ต.ยะรม ที่ได้รวบรวมกันส่งมอบให้กับ ด.ต.รูสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือชาวมูโนะต่อไป

@@ ฝ่ายปกครองลุยตรวจโกดัง-ร้านจำหน่ายพลุ หลังโซเชียลฯชี้เบาะแส

หลังเกิดเหตุการณ์โกดังพลุ ดอกไม้ไฟระเบิดในชุมชนตลาดมูโนะ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่หลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายพุล ดอกไม้ไฟ และประทัด กันอย่างเข้มงวด

วันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค. ในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานประกอบการจำนวน 2 จุด คือ

จุดแรกที่บริเวณโกดังเก็บสินค้า ถนนพุทธภูมิวิถี 2 ซึ่งเป็นโกดังของร้านจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิงในเขตเทศบาลนครยะลา จากการตรวจสอบมีพลุเก็บไว้ในปริมาณเล็กน้อย

จุดที่ 2 บริเวณร้านค้าหน้าตลาดรถไฟ ไม่พบว่ามีการเก็บฃพลุ ดอกไม้ไฟ และจากการตรวจสอบใบขออนุญาตจำหน่ายและซื้อพลุ ปรากฏว่ามีใบอนุญาตจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และใบเสร็จการซื้อขายครบถ้วน ูกต้อง

นายสุพจน์ พลหามูล ปลัดอำเภอเมืองยะลา กล่าวว่า หลังจากที่ปรากฏในสื่อโซเชียลฯ ว่า มีการลักลอบจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิงใน อ.เมืองยะลา ทางอำเภอได้ประสานตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบร้านค้าที่มีสื่อออนไลน์แจ้ง เพื่อให้เกิดความกระจ่างในพื้นที่ และให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล หวั่นจะเกิดเหตุซ้ำเหมือนที่ จ.นราธิวาส

“จากการตรวจสอบไม่มีการสต๊อกสินค้า มีเฉพาะตามใบเสร็จที่ผู้ประกอบการใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งมา ส่วนในสต๊อกก็มีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น การส่งของ เคลื่อนย้าย มีการขออนุญาตถูกต้อง ส่วนกรณีที่มีข่าวการเคลื่อนย้ายไปก่อนหน้านี้ เราก็มีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำตามห้วงการปฎิบัติ ยืนยันไม่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าออกก่อนเข้าตรวจสอบ”

ด้าน นางบุษยมาส อิศดุลย์ ประธานกลุ่มบ้านบุญเต็ม ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “บุษยมาส อิศดุลย์” ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า ชาวบ้านที่แจ้งข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กของตนรายหนึ่ง ยังยืนยันว่าเคยพบเห็นรถบรรทุก 6 ล้อไปจอดอยู่ที่โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟบางแห่งในเขตเมืองยะลา ทั้งก่อนและหลังที่เกิดเหตุระเบิดที่มูโนะ นราธิวาส เชื่อว่าเจ้าของโกดังน่าจะมีการขนย้ายออกไปหมดแล้ว ก่อนที่ฝ่ายปกครองและผู้เกี่ยวข้องจะไปตรวจค้น แต่ก็ยังถือเป็นเรื่องดีที่มีความพยายามตรวจสอบ หวังว่าจะหามาตรการป้องกันที่รัดกุมกว่าเดิม ไม่ใช่ทำแค่วัวหายล้อมคอก

@@ นายอำเภอเบตง สั่งตรวจเข้มการจำหน่ายดอกไม้ไฟ

ที่ อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง มอบหมายให้ นายณัฐวุฒิ เจ๊ะหะมะ ปลัดอำเภองานปกครอง, นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภองานความมั่นคง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง และนายยะโก๊ะ ปะจู หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองเบตง ร่วมออกตรวจร้านค้าดอกไม้เพลิงในเขตเทศบาลเมืองเบตง ตรวจสอบผู้รับใบอนุญาตให้ทำ สั่ง นำเข้า หรือค้า ซึ่งดอกไม้เพลิง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

ทั้งยังได้เน้นย้ำผู้ประกอบการ ร้านค้า สถานที่จำหน่าย จัดเก็บดอกไม้เพลิง ให้ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเพิ่มความระมัดระวังฃไม่ให้ประทัดหรือดอกไม้เพลิงอยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดไฟ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นได้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามแนวทางการควบคุม วิธีปฏิบัติการจำหน่ายอย่างเคร่งครัด ตรวจความพร้อมของถังดับเพลิงให้พร้อมใช้อยู่เสมอ และขอให้ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ด้วย

ที่มา : isranews