สภาทนายฯลุยช่วยชาวมูโนะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเหตุโกดังพลุระเบิด

สภาทนายความฯ นำทนายอาสากว่า 50 ชีวิตลงพื้นที่มูโนะ จ.นราธิวาส ช่วยชาวบ้านรวบรวมเอกสารหลักฐานฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของโกดังพลุระเบิด พ่วง 7 บริษัทส่งดอกไม้เพลิงที่ถูกตำรวจดำเนินคดี คาดลุยฟ้องได้บางส่วนในสัปดาห์หน้า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันเสาร์ที่ 23 ก.ย.66 ที่บริเวณลานหน้า อบต.มูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ด.ต.รูสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ ได้ร่วมกับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันจัดโครงการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิและความเสมอภาคของประชาชนชาวตลาดมูโนะ ให้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมจากเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายรวม 649 หลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 240 ล้านบาท

กิจกรรมในครั้งนี้มีชาวตลาดมูโนะ ได้เดินทางมาร่วมลงทะเบียนและได้ทยอยเดินทางมารอรับการช่วยเหลือจากทนายความเป็นตัวแทนชาวบ้านเรียกเงินสินไหมทดแทน ด้านความเสียหายของบ้านพักตลอดทั้งวัน โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ, ด.ต.รูสลาม อาแว นายกอบต.มูโนะ, นายคุณพจน์ แพรดำ ผอ.สำนักงานสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย, นายโอฬาร กุลวิจิตร กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 9, นายชลสิทธิ์ แก้วยะรัตน์ ประธานกรรมการศูนย์นิติธรรม สมานฉันท์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายรังสฤษดิ์ ศรีสองคอน กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ได้ร่วมขึ้นบนเวทีสลับสับเปลี่ยนกันให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทของทนายความ เรื่องต่างๆ อาทิ สิทธิผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา การฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ชาวบ้านต้องเข้าใจ

โดยทางทนายความจะให้การช่วยเหลือในการฟ้องแพ่งกับ 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้ไฟและรวมไปถึง 7 บริษัท ที่มีการลักลอบค้าและจำหน่ายดอกไม้ไฟให้กับ 2 สามีภรรยาที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ประกอบด้วย 1.บริษัท โอเอ็นจี ทูเก็ตเตอร์ จำกัด 2.บริษัท ที่พีบี ไฟร์เวิร์ค จำกัด 3.ร้านเอเชีย คลองแงะ 4.บริษัท สุรเสียง (ประเทศไทย) จำกัด 5.บริษัท ไดมอนโดม จำกัด 6.บริษัท เคทูเค ไฟร์เวิร์ค จำกัด 7.บริษัท ทองทาดา จำกัด

นอกจากนี้ยังมีทนายความอาสาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา จำนวนกว่า 50 คน นั่งโต๊ะทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ช่วยเหลือในการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่ายความเสียหายของบ้านพัก รวมทั้งใบมรณบัตรของผู้เสียชีวิตแต่ละราย เพื่อรวบรวมเป็นกลุ่มบุคคลในการฟ้องร้องต่อ 7 บริษัทและ 2 สามีภรรยา

ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า วันนี้เราลงพื้นที่พร้อมกับคณะกรรมการพร้อมกับประธานศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายก อบต.แห่งประเทศไทย เพื่อที่จะมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในการที่จะนำไปสู่การฟ้องคดีเรียกร้องค่าเสียหายสินไหมทดแทนจากคนที่ก่อให้เกิดเหตุในครั้งนี้ โดยสภาทนายความจะให้ทนายความจากศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์สามจังหวัดชายภาคใต้ เป็นผู้ดำเนินการ และไม่คิดค่าทนายความกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเลยแม้แต่บาทเดียว ขณะนี้ข้อเท็จจริงเรารวบรวมได้บางส่วนที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว เข้าใจว่าบางส่วนเราจะฟ้องได้ในสัปดาห์หน้า

น.ส.ฮีลวาณี ยูโซะ บ้านเลขที่ 30/6 ซอยโกดัง กล่าวว่า บ้านตนเองอยู่ห่างกับโกดัง ประมาณ 80 เมตร เสียหายทั้งหลังและได้รับบาดเจ็บด้วย ในเรื่องของการได้ยินเสียง ซึ่งเหลือประมาณ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ หากใครพูดคุยด้วยต้องใช้เสียงดังๆ ส่วนบ้านที่เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่งก็พัง ตอนนี้ไม่มีรายได้อะไรเลย

“ในวันนี้สภาทนายความได้ให้ความช่วยเหลือมารับคำร้องถึงที่ พวกเราตาดำๆ ไม่รู้จะไปพึ่งใครที่ไหน ต้องขอบคุณสภาทนายที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของชาวตลาดมูโนะและไม่ลืมพวกเราที่กำลังเดือดร้อน” 

ที่มา: isranews.org