ฝนถล่มหนัก-นราฯสำลักน้ำ 9 อำเภอ เดือดร้อนหมื่นครัวเรือน!
ฝนถล่มนราธิวาส น้ำเอ่อท่วมถนนหลายสายในตัวเมือง เตือนประชาชนริมคลองตันหยงมัสรับมือน้ำล้นตลิ่ง ด้านนายอำเภอแว้งเตรียมศูนย์อพยพรองรับผู้ประสบอุทกภัย ขณะที่ยะลาเผชิญน้ำท่วมสูงและดินสไลด์หลายจุดในพื้นที่ “ธารโต-ยะหา” ส่วนที่บันนังสตากระแสน้ำป่าไหลเชี่ยว เซาะคอสะพานทรุด
วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.66 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ออกประกาศฉบับที่ 12 เรื่องคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.66 สาระสำคัญระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันที่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ส่งผลให้พื้นที่ จ.นราธิวาส เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำสายบุรี ตั้งแต่วันที่ 22-24 ธ.ค.66 มีปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ราบเชิงเขาและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางคืนของวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. จนถึงช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. มีพายุฝนกระหน่ำทั่วตัวเมืองนราธิวาสติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมือง โดยเฉพาะถนนระแงะมรรคา ถนนสถิตย์รายา วงเวียนนกสันติภาพ มีน้ำท่วมผิวจราจร รถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กสัญจรอย่างลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวัง ระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 15 เซนติเมตร
ส่วนในพื้นที่ อ.ยี่งอ ได้เกิดน้ำท่วมขังสูงท่วมถนนรามโกมุท ต.ละหาร บริเวณที่ทำการไปรษณีย์ น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านประชาชนหลายหลังคาเรือน ทำให้เจ้าของบ้านต้องยกทรัพย์สินขึ้นที่สูง
@@ เตือนชาวบ้านริมคลองตันหยงมัส รับมือน้ำล้นตลิ่ง
ด้านโครงการชลประทานนราธิวาส แจ้งว่า หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ลุ่มน้ำบางนรา ตั้งแต่วันที่ 21-23 ธ.ค.66 มีปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน ที่ อ.จะแนะ 87.2 มม., อ.เจาะไอร้อง 76.4 มม., อ.ระแงะ 80.6 มม., อ.ยี่งอ 81.8 มม. และ อ.เมืองนราธิวาส 56.0 มม. อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ราบเชิงเขาและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำล้นตลิ่งคลองตันหยงมัส และระดับน้ำในแม่น้ำบางนราอาจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองตันหยงมัส บริเวณบ้านตันหยงมัส บ้านไท บ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ, บ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ ต.ลำภู ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส และบ้านทุ่งคา บ้านโต๊ะแม บ้านปูตะ ต.ละหาร อ.ยี่งอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และให้ติดตามสถานการณ์น้ำและข่าวสารจากทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส อย่างใกล้ชิด
@@ อ.แว้ง เตรียมศูนย์อพยพรองรับผู้ประสบอุทกภัย
นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ระดับน้ำในพื้นที่ขณะนี้เริ่มมีปริมาณเพิ่มสูงมากขึ้น แม้ว่าในพื้นที่จะมีปริมาณฝนไม่มากก็ตาม แต่ก็คาดการณ์ว่าระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นน้ำที่มาจากในพื้นที่ป่าฮาลาบาลา และในพื้นที่คลองที่เชื่อมต่อกับอำเภออื่นๆ โดยรอบ และน้ำในคลองสายต่างๆ เริ่มไหลลงสู่พื้นที่ ต.ฆอเลาะ แล้ว
“ทางอำเภอแว้งจึงได้จัดเตรียมเรือท้องแบน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้อพยพของขึ้นที่สูง และกรณีที่สถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงได้เตรียมศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยไว้รองรับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบแล้ว จึงขอให้ประชาชนทุกคนร่วมเฝ้าติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด” นายอำเภอแว้ง กล่าว
@@ น้ำท่วมนราฯ 9 อำเภอ เดือดร้อนเกือบหมื่นครัวเรือน
รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 20.00 น.วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.66 จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 9 อำเภอ 44 ตำบล 196 หมู่บ้าน 9,558 ครัวเรือน 37,901 คน 4 ชุมชน โรงเรียน 11 แห่ง ปศุสัตว์ (แพะ) 2 ตัว โดยแยกตามรายอำเภอได้ดังนี้
อ.แว้ง จำนวน 6 ตำบล 17 หมู่บ้าน 972 ครัวเรือน 3,726 คน โรงเรียน 3 แห่ง
อ.สุคิริน จำนวน 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน 213 ครัวเรือน 706 คน
อ.จะแนะ จำนวน 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน 2,115 ครัวเรือน 9,626 คน โรงเรียน 1 แห่ง
อ.ระแงะ จำนวน 7 ตำบล 44 หมู่บ้าน 2,073 ครัวเรือน 8,087 คน โรงเรียน 7 แห่ง
อ.สุไหงปาดี จำนวน 5 ตำบล 12 หมู่บ้าน 436 ครัวเรือน 1,712 คน 4 ชุมชน
อ.ศรีสาคร จำนวน 6 ตำบล 15 หมู่บ้าน 327 ครัวเรือน 728 คน ปศุสัตว์ (แพะ) 2 ตัว
อ.เจาะไอร้อง จำนวน 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน 337 ครัวเรือน 1,220 คน
อ.ยี่งอ จำนวน 6 ตำบล 37 หมู่บ้าน 2,755 ครัวเรือน 11,020 คน
อ.รือเสาะ จำนวน 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน 330 ครัวเรือน 1,076 คน
@@ ยะลาเผชิญน้ำท่วมสูง – ดินสไลด์หลายจุด
ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลา สรุปสถานการณ์ฝนตกหนักระหว่างวันที่ 23-24 ธ.ค.66 ทำให้เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 2 อำเภอของ จ.ยะลา คือ
1.อ.ธารโต เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ จำนวน 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย
– ต.คีรีเขต จำนวน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 2 เกิดดินสไลด์ จำนวน 5 จุด บริเวณ กม.4 ถึงเขาพับผ้า รถยังสามารถสัญจรได้ปกติ, หมู่ 3 เกิดเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 1 ต้น บริเวณ กม. 8 ตั้งแต่บ้านซอย 7 ถึงบ้านไทยพัฒนา กม.17 (หมู่ 4) รอการไฟฟ้าบันนังสตาจะเข้าดำเนินการแก้ไข
– ต.บ้านแหร จำนวน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 4 เกิดดินสไลด์ปิดเส้นทางสัญจร สาย 410 ยะลา-เบตง หมวดทางหลวงธารโต นำรถ JCB เข้าไปเกลี่ยเส้นทางสามารถสัญจรได้แล้ว 1 ช่องทาง, หมู่ 7 น้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อน 8 ครัวเรือน
– ต.แม่หวาด จำนวน 1 หมู่บ้าน หมู่ 9 ดินสไลด์ทับเส้นทางจราจร รถสามารถสัญจรได้ 1 ช่องทางจราจร
2. อ.ยะหา เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน คือ หมู่ 5 ต.บาโร๊ะ น้ำท่วมทางเข้าหมู่บ้านซีเซะ ระดับน้ำสูง 1 เมตร รถไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางสำรอง ขณะนี้สามารถเคลียร์เส้นทางให้รถสัญจรไปมาได้แล้ว
@@ บันนังสตากระแสน้ำป่าไหลเซาะคอสะพานทรุด
วันเดียวกัน มีรายงานสถานการณ์เพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ในท้องที่ หมู่ 2,หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน เกิดเหตุสะพานเส้นทางเบี่ยงเข้าหมู่บ้านทรุดตัว เนื่องจากกระแสน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขา ไหลเซาะคอสะพาน ทางเจ้าหน้าที่จากอำเภอบันนังสตา ได้ประสาน อบต.ตลิ่งชัน เร่งดำเนินการนำรถแบคโฮเข้าตักดินถมคอสะพานเพื่อให้รถสัญจรได้
ขณะที่เส้นทางบ้านสันติ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ช่วงบ้านปะตุปุโป๊ะ เกิดเหตุดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง และยังพบว่าในพื้นที่ลุ่มต่ำ หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน รอยต่อบ้านปาลอบาตะ ระดับน้ำล้นคลองปาลอบาตะได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน
ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี ในพื้นที่ อ.รามัน และแม่น้ำปัตตานี ในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่สูงขึ้นและอาจล้นตลิ่ง พร้อมทั้งเตรียมแผนอพยพครัวเรือนจากพื้นที่เสี่ยง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่มา : isranews