นราฯท่วมใหญ่ ชาวบ้านหนีน้ำ-เรือล่มสูญหาย 4 ราย ทั้งคนแก่ เด็กเล็ก

นราธิวาสเผชิญน้ำท่วมใหญ่ทั้ง 13 อำเภอ กู้ภัย–ทหารพรานเร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมลุยค้นหา 4 ชีวิตหนีน้ำ-เรือล่มที่รือเสาะ ทั้งเด็ก คนชรา ขณะที่รถไฟสายชายแดนใต้ประกาศหยุดวิ่งช่วงยะลา-สุไหงโก-ลก หลังพบรางทรุด จังหวัดใต้สุดแดนสยามจม 6 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 400 หลังคาเรือน

จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเผชิญกับสภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก และประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

วันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.66 พื้นที่ จ.นราธิวาส ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้พื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเสียหาย ภาพรวมท่วมทั้ง 13 อำเภอ ทั้งถนนสายหลักและถนนในหมู่บ้านมีน้ำท่วมขัง บางสายยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวมไปถึงโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ทั้ง 3 เขต มีน้ำท่วมขังหลายโรง จนต้องประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นกรณีฉุกเฉิน

จากผลพวงของปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก มีน้ำล้นตลิ่ง และได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยแม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่งสูงถึง 3.38 เมตร ส่วนแม่น้ำบางนรา ล้นตลิ่งสูง 1.88 เมตร และแม่น้ำโก-ลกล้นตลิ่งสูง 0.79 เมตร

@@ รถไฟสายชายแดนใต้หยุดบริการหลังเจอรางทรุด

ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประกาศปิดเส้นทางเดินรถสายใต้ จากสถานีสุไหงโก-ลก ถึงสถานียะลา เนื่องจากพบรางรถไฟทรุด บริเวณเส้นทางตันหยงมัส-ป่าไผ่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากเหตุอุทกภัย ทำให้รถไฟทุกขบวนจากสุไหงโก-ลก งดเดินรถ

ส่วนผู้ใช้บริการที่เดินทางโดยรถด่วน รถเร็ว ขบวนสุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์ จะให้บริการต้นทาง-ปลายทางจากสถานีรถไฟยะลา และขนถ่ายผู้โดยสารโดยรถยนต์ ขณะที่ขบวนท้องถิ่นจะเริ่มต้นและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟยะลา

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถเร็ว ขบวนสุไหงโก-ลก-กรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจอดเทียบชานชลาสถานีรถไฟยะลา ทาง ร.ฟ.ท.ได้นำรถทัวร์มาให้บริการนำประชาชนไปส่งยังจุดหมายปลายทางที่ อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 6 คัน คันละ 50 คน ซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ 300 คน เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง

@@ กู้ภัย–ทหารพราน ช่วยเคลื่อนย้ายชาวบ้านพื้นที่เสี่ยง

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเชิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ภายใต้การนำของ นายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้าชุด ได้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งล้วนแล้วเป็นชุดประดาน้ำ เข้าไปยังพื้นที่ อ.ระแงะ เพื่อช่วยเหลืออพยพประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง โดยเฉพาะคนชราที่พักอาศัยอยู่ตามลำพัง และชาวบ้านอีกหลายหลังคาเรือนที่อยู่ในพื้นที่น้ำเชี่ยวกราก

เช่นเดียวกับ พ.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแยม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 (ผบ.ฉก.ทพ.45) นำกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของและสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำ ในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ

ส่วนในพื้นที่ อ.รือเสาะ ซึ่งเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมขั้นวิกฤติ พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขตต์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 (ผบ.ฉก.ทพ.46) ได้มอบหมายให้กำลังพลเข้าพื้นที่ร่วมกับ น.ส.มายีนี ดอเล๊าะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.รือเสาะ ให้ความช่วยเหลือประชาชนบ้านบือราเเง หมู่ 3 ต.รือเสาะ ทั้งอพยพผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วย ผู้พิการ ไปยังพื้นที่อพยพสำรอง และยกของขึ้นหนีน้ำ

@@ หนีน้ำ เรือล่ม สูญหาย 4 ราย

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ระแงะ มีผู้ประสบภัยอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว จำนวน 76 ครัวเรือน รวม 263 คน แยกเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวที่เทศบาลตำบลตันหยงมัส 37 ครัวเรือน รวม 108 คน, ศูนย์อพยพชั่วคราว อบต.ตันหยงมัส 39 ครัวเรือน รวม 155 คน มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กเล็ก แต่ละคนยังขาดแคลนเสื้อผ้า ผ้าอ้อมเด็กเล็ก ผ้าอนามัย ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่

ส่วนในพื้นที่ บ้านสะแนะ หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ ได้เกิดเหตุเรือล่ม มีคนสูญหายไปกับกระแสน้ำจำนวน 4 คน คือ นางคอตีเยาะ เจ๊ะแล อายุ 89 ปี, นางอาอีเสาะ เจ๊ะบอสู อายุ 63 ปี, ด.ช.นาซูฮาร์ มายิ อายุ 8 ปี และ ด.ช.มูฮัมหมัดนาบาส มายิ อายุ 2 ปี เหตุเกิดขณะอพยพหนีน้ำ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างค้นหาบุคคลทั้ง 4 แต่ยังไม่พบ

@@ ยะลาน้ำท่วม 6 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 400 ครัวเรือน

ที่ จ.ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 20 ตำบล 50 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 416 ครัวเรือน จำนวน 1,485 คน มีบ้านเรือนเสียบางส่วน 1 หลัง อพยพแล้ว 44 ครัวเรือน จำนวน 155 คน ถนนเสียหาย 24 แห่ง และสะพานเสียหาย 1 แห่ง แยกรายละเอียดตามอำเภอดังนี้

1. อ.บันนังสตา เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 4 ตำบล (ต.บาเจาะ , ต.บันนังสตา , ต.ตลิ่งชัน, ต.ตาเนาะปูเต๊ะ) รวม 13 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 172 ครัวเรือน จำนวน 861 คน และบ้านเรือนเสียบางส่วน 1 หลัง และถนนเสียหาย 3 แห่ง

2. อ.ยะหา เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 4 ตำบล ( ต.ละแอ, ต.บาโร๊ะ, ต.ปะแต, ต.ยะหา) รวม 12 หมู่บ้าน 1 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 60 ครัวเรือน จำนวน 240 คน อพยพแล้ว 28 ครัวเรือน จำนวน108 คน และถนนเสียหาย 12 แห่ง

3. อ.เมืองยะลา เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 1 ตำบล (ต.สะเตงนอก) รวม 4 หมู่บ้าน อพยพ 14 ครัวเรือน 39 คน

4. อ.ธารโต เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 3 ตำบล (ต.คีรีเขต, ต.บ้านแหร, ต.แม่หวาด) รวม 5 หมู่บ้าน

5. อ.รามัน เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 6 ตำบล (ต.บาลอ, ต.โกตาบารู, ต.กายูบอเกาะ, ต.บือมัง, ต.จะกว๊ะ, ต.กาลูปัง) รวม13 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 70 ครัวเรือน จำนวน 245 คน อพยพ 2 ครัวเรือน 8 คน และถนนเสียหาย 7 แห่ง

6. อ.กาบัง เกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ 2 ตำบล (ต.กาบัง, ต.บาละ) รวม 3 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 100 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 2 แห่ง และสะพาน 1 แห่ง

ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันแนวโน้มยังคงมีฝนตกอยู่ ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา จึงได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี บริเวณ อ.รามัน, แม่น้ำปัตตานี บริเวณ อ.บันนังสตา และริมคลองยะหา อ.ยะหา ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

@@ เตือนระวังแม่น้ำปัตตานีระดับน้ำสูงไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม

ในอำเภอเมืองยะลา เทศบาลนครยะลาได้ปิดการสัญจร ห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านถนนสันเขื่อนเลียบแม่น้ำปัตตานีตลอดสาย เพราะมีน้ำท่วมถนน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสภาวะฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 22-25 ธ.ค. ทำให้น้ำในแม่น้ำปัตตานีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 5-8 เซนติเมตร นอกจากนี้ปริมาณน้ำฝนจากในเขตเทศบาลนครยะลา ต.บุดี และ ต.สะเตงนอก ก็ไหลลงคลองแบเมาะ ส่งผลให้น้ำในบึงแบเมาะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ประกาศเตือนว่าจะยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องจนถึงวันที่ 26 ธ.ค. ทำให้พื้นที่เมืองยะลายังอยู่ในภาวะเสี่ยง

ทางเทศบาลนครยะลาจึงออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มที่เคยประสบอุทกภัยในเขตเทศบาล เช่น พื้นที่ชุมชนหลังวัดยะลาธรรมาราม, ชุมชนวิฑูรอุทิศสัมพันธ์ (ซอย 10), ชุมชนหลังโรงเรียนเทศบาล 5, ชุมชนจารูนอก, ชุมชนเมืองทอง, ชุมชนเสรี, ถนนวิฑูรอุทิศ 4, ถนนวิฑูรอุทิศ 1, ชุมชนธนวิถี, ชุมชนหลังโรงเรียนจีนและบริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และระมัดระวังปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเฝ้าระวังติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครยะลาอย่างใกล้ชิด

@@ เบตงพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง จ.ยะลา กล่าวว่า ในพื้นที่ อ.เบตง ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงนี้ จึงได้เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ดินสไลด์ทับเส้นทางเข้าหมู่บ้าน โดยเฉพาะเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ให้เฝ้าระวังดินถล่มทับเส้นทาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังและติดตามสถานการณ์กับประกาศแจ้งเตือนตลอดเวลา

ทั้งยังได้กำชับหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และยานพาหนะในการเตรียมการช่วยเหลือ รวมทั้งตรวจสอบช่องทางระบายน้ำในเขตเมือง ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้าและต้นไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายซ้ำซ้อน

@@ นายกฯ บินตรวจน้ำท่วมนราฯ หลังเสร็จประชุม ครม.

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะนราธิวาส เนื่องจากได้รับรายงานว่าประสบความเดือดร้อนหนักที่สุด ดังนั้นในวันอังคารที่ 26 ธ.ค.66 หลังเสร็จการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯจะเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสถานการณ์และแนวโน้มของอุทกภัย ตลอดจนความพร้อมในการรับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการระบายน้ำ รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อจะได้แก้ไขและช่วยเหลือได้ตรงกับความต้องการและเท่าทันสถานการณ์

มีรายงานว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกฯเศรษฐา สั่งกำชับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่าจะไม่เพิ่มภาระแก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในการต้อนรับ โดยขอให้กำลังทั้งหมดมุ่งไปที่การช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขสถานการณ์อุทกภัย

ที่มา : isranews