“ไรเดอร์ปัตตานี” งดวิ่งงานประท้วงลดค่ารอบ
ไรเดอร์ไลน์แมนปัตตานี รวมตัวงดวิ่งงาน 1 วัน หลังถูกต้นสังกัดปรับลดค่ารอบจาก 21 บาทเหลือ แค่ 17 บาท ครวญกระทบรายได้ ไม่คุ้มภาระค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอรถที่ต้องรับผิดชอบกันเองทุกอย่าง รอคำตอบบริษัทภายใน 1 สัปดาห์ หากไม่เป็นที่น่าพอใจนัดรวมตัวใหม่อีกรอบ บางรายท้อ ขอลาไปทำงานมาเลย์
วันอังคารที่ 23 ม.ค.67 ที่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี กลุ่มผู้ขับรถส่งอาหาร หรือ “ไรเดอร์” ของแอปส่งอาหารชื่อดัง “ไลน์แมน” ใน จ.ปัตตานี ได้รวมตัวกันงดวิ่งส่งอาหาร 1 วัน สาเหตุมาจากการที่ทางต้นสังกัดได้ปรับค่ารอบส่งอาหาร จากปกติจะได้รอบละ 21 บาท ปรับลดเหลือรอบละ 17 บาท โดยเริ่มปรับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 ม.ค.
โดยบรรยากาศการนัดรวมตัวของกลุ่มไรเดอร์หลายสิบคน เป็นไปอย่างคึกคัก มีการติดกระดาษข้อความที่กล่องใส่อาหารว่า #SAVEไรเดอร์ปัตตานี, #เราไม่เอาค่ารอบ 17 บาท โดยติดที่รถมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์ทุกคัน
จากการสอบถามทราบว่า ผู้ที่ทำงานไรเดอร์ในปัตตานีเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จะทำอาชีพนี้เป็นหลักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 1 ทุ่มทุกวัน ซึ่งจะขับรถส่งอาหารเฉลี่ยวันละประมาณ 20-30 รอบ แล้วแต่ออเดอร์ที่เข้ามาในมือถือ แต่ละรอบจะได้เงินประมาณ 21 บาท ซึ่งต้องหักภาษีอีก 3 เปอร์เซ็นต์ เหลือรอบละ 20 บาท โดยแต่ละวันจะได้เงินหลังหักค่าน้ำมันและค่าสึกหรอต่างๆ แล้ว เหลือเฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 300 กว่าบาทเท่านั้น
แต่เมื่อทางต้นสังกัดปรับค่ารอบเหลือ 17 บาท รายได้ที่จะได้ต่อวันจะหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้กลุ่มไรเดอร์ไม่พอใจ เพราะต้องรับผิดชอบทั้งค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอรถ รวมถึงค่าเคลมเมื่อลูกค้าไม่รับสินค้า อีกทั้งไรเดอร์ในปัตตานีหลายคนมาจากต่างอำเภอ ต้องเดินทางเข้าเมืองระยะทางกว่า 20-30 กิโลเมตร เพื่อจะมาทำงานส่งอาหารในตัวอำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งจะเพิ่มภาระในการใช้เงินเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย
@@ เปิดประกาศ “ไลน์แมน” อ้างเหตุลดค่ารอบ
สำหรับการปรับลดค่ารอบของไรเดอร์ ทาง บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีประกาศว่า ประกาศสำคัญ LINE MAN ปรับโครงสร้างค่ารอบใหม่ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.67 เป็นต้นไป
บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับโครงสร้างค่ารอบใหม่สำหรับไรเดอร์ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อรักษาสมดุลของสภาพตลาดและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ โดยบริษัทฯได้วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนจากอัตราค่าครองชีพ ปริมาณคำสั่งซื้อ และสภาพการแข่งขันของพื้นที่นั้นๆ เพื่อคงไว้ซึ่งรายได้โดยรวมของไรเดอร์ที่สมเหตุสมผล และเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
โครงสร้างค่ารอบใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.67 เป็นต้นไป ค่ารอบเริ่มต้นที่ 17 บาทต่อออร์เดอร์ ค่ารอบของงานพ่วง เริ่มต้นที่ 8 บาทต่อออร์เดอร์ (ไม่เปลี่ยนแปลง) เบี้ยขยัน (อินเซนทีฟ) ทั้งรูปแบบโบนัสต่อเที่ยว ช่วงเวลา รายวัน และรายสัปดาห์ ติดตามจากประกาศ
ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตที่มั่นคงยิ่งขึ้นของไรเดอร์ บริษัทฯได้เตรียมนโยบายพัฒนาระบบและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ไรเดอร์ในปีนี้ ได้แก่ ปรับปรุงระบบจัดสรรงานเพื่อลดระยะเวลาในการรออาหาร, ควบคุมการรับสมัครไรเดอร์เพื่อรักษาจำนวนงานและรายได้เฉลี่ยให้เพียงพอกับไรเดอร์ในพื้นที่นั้นๆ, แคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้งานของลูกค้าให้ไรเดอร์ได้รับงานอย่างต่อเนื่อง, สิทธิประโยชน์ช่วยเหลือด้านความปลอดภัยและค่าครองชีพ (ติดตามประกาศภายหลัง)
@@ รอคำตอบบริษัทฯ ไม่จบนัดใหม่ซ้ำ
ด้าน นายฮัมดี ราษฎร์บำรุง ตัวแทนกลุ่มไรเดอร์ปัตตานี กล่าวว่า เรื่องค่ารอบที่ลดลงเหลือรอบละ 17 บาทของไรเดอร์ปัตตานี พวกตนขอให้คงไว้เท่าเดิม คือรอบละ 21 บาท เพราะมันไม่พอกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ไม่คุ้มค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอของรถ เรามีค่าใช้จ่ายเยอะ ค่าน้ำมันวันหนึ่งประมาณ 140-200 บาท
“อยากให้บริษัทได้รับทราบว่า ไรเดอร์เกือบทุกคนยึดเป็นอาชีพหลัก มีภาระรับผิดชอบต่อครอบครัว ทุกอย่างในอาชีพนี้เราต้องรับภาระเองหมด บางคนบ้านอยู่ต่างอำเภอ ขี่ไปกลับวันละเกือบร้อยกิโลฯ 50 กิโลฯ ก็ต้องทำ เพราะปัตตานีมีงานทำน้อยมากจริงๆ ออกมาเช้ากลับค่ำ บางคนย้ายไปวิ่งพื้นที่อื่น เพราะวิ่งที่ปัตตานีไม่ไหวกับค่ารอบ ในกลุ่มไรเดอร์ปัตตานีมีกันกว่า 300 คน” นายฮัมดี ระบุ
ตัวแทนกลุ่มไรเดอร์ กล่าวอีกว่า พวกตนขอคำตอบจากบริษัทฯ ภายในอาทิตย์นี้ โดยในวันนี้ได้หยุดรวิ่งหนึ่งวัน หากไม่ได้รับคำตอบก็จะขอนัดกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
@@ อยู่ไม่ไหวขอไปเป็นกุ๊กมาเลย์
นายมูฮัมมัด สาเมาะ ไรเดอร์จากบ้านลาดอ ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี บอกว่า วิ่งไรเดอร์มา 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ค่ารอบดีๆ ก็อยู่ได้ ช่วงหลังมาค่ารอบลดลงและใช้ระบบ AI มาส่งออเดอร์ ทำให้บางคนกว่าจะได้รับออเดอร์นานมาก บางวันได้แค่ 2-3 ออเดอร์ ก็ไม่ไหว เหลือรายได้วันละร้อยกว่าบาท ก็ไม่พอค่าใช้จ่าย
“หากยังเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน อีกสองวันก็จะไปเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารในมาเลเซีย ถ้าผ่านงานก็จะมีรายได้ดีกว่านี้ ได้ส่งกลับมาดูแลครอบครัว ทั้งที่อยากทำงานแถวบ้าน แต่จำเป็นต้องไปเพราะไม่ไหวจริงๆ” ไรเดอร์จากบ้านลาดอ กล่าว