ครอบครัวยื่นฟ้อง “คดีตากใบ” ศาลนัดไต่สวน 24 มิ.ย.
วันที่ 25 เม.ย.67 มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พาญาติผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบมากกว่า 50 คนเป็รโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 9 คนโดยตรงต่อศาลจังหวัดนราธิวาส
จากการเปิดเผยของ ผอ.มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเต๊ะ เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกยื่นฟ้องประกอบด้วย
– แม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้น (พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ปัจจุบันเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย)
– ฝ่ายปกครอง
– ฝ่ายตำรวจ โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
รายชื่อผู้ที่ถูกยื่นฟ้อง ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน แต่ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ขยายความเพิ่มเติมว่า “เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกฟ้อง เรารู้ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะมากกว่า 9 คนด้วยซ้ำ แต่การฟ้องหัวหน้าศูนย์ราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง คือสัญลักษณ์ของความเป็นธรรม เพราะหัวหน้าจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าใครจะทำอะไรจนมีคนเสียชีวิต ระดับนี้เขาควรจะต้องรับผิดชอบ ทั้งทางแพ่ง อาญา และวินัย”
ขณะที่ อับดุลกอฮาร์ อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องยื่นฟ้อง และความเชื่อที่ว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์ผู้เสียหายฟ้องเอง
“เป็นคดีที่ผ่านการไต่สวนการตายมาแล้วที่ศาลจังหวัดสงขลา แต่ว่าในการไต่สวนการตายทุกคดี มันก็ต้องมีการส่งสำนวนไปยังอัยการ แล้วก็พนักงานสอบสวน ถ้าคดีไหนที่มันมีมูล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินคดี แต่คดีนี้พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้มีการดำเนินคดีผู้ใด และมันจะครบกำหนดอายุความวันที่ 25 ต.ค.ปีนี้”
“เริ่มแรกเราตามสำนวนจากทางฝ่ายพนักงานสอบสวน กับพนักงานอัยการ โดยผ่านกรรมาธิการการกฎหมายฯ แต่ว่าสำนวนมันมีปัญหา หาไม่เจอบ้างอะไรประมาณนี้ พอเราเห็นว่าคดีจะล่าช้าและอายุความก็ใกล้จะหมด หากเราปล่อยไป มันจะทำให้คดีนี้จบไปโดยที่ไม่มีใครต้องมารับผิดชอบ ก็เลยปรึกษากับทางชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ทั้งผู้บาดเจ็บจากในเหตุการณ์ และญาติของผู้เสียชีวิต”
“มีการประชุมกัน แนะนำข้อกฎหมายว่า ถึงแม้คดีไต่สวนการตายมันจะผ่านไปแล้ว แต่กฎหมายไม่ได้ตัดสิทธิ์ให้กับผู้เสียหายหรือญาติของผู้ตายจะฟ้องคดีเองได้ สรุปผู้เสียหายบอกว่าจะฟ้องคดีเป็นคดีอาญา ทีมทนายความก็เลยมาคุยกันปรึกษาหารือกัน และตัดสินใจมาฟ้องคดีในวันนี้“
“พยานหลักฐานมีทั้งรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง และภาพถ่าย รวมทั้งการฝากขังของผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอ โดยกำหนดนัดไต่ส่วนมูลฟ้อง วันที่ 24 มิ.ย.67”
“ช้อหาที่ฟ้อง คือ การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ว่าเป็นการฆ่าประเภทที่เล็งเห็นผล เป็นศัพท์ของกฎหมาย เพราะว่าตามกฏหมาย มันมีฆ่าประสงค์ต่อผล กับฆ่าโดยเล็งเห็นผล คือถึงแม้ไม่ได้เจตนาโดยตรง แต่ถ้าเล็งเห็นได้ว่า ทำแบบนี้จะทำให้คนถึงแก่ความตาย ก็เข้าองค์ประกอบของกฎหมาย” ผอ.มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ระบุ
ที่มา : isranews.org