เตรียมรับมือสงครามอิสราเอล-อิหร่าน
กระทรวงการต่างประเทศแถลงเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิสราเอล อิหร่าน และประเทศใกล้เคียงกันในช่วงต่อจากนี้ไป เพื่อความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สินตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หลังมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอิหร่านสั่งปิดน่านฟ้า และช่องแคบฮอร์มุสที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกว่า 20% ของความต้องการใช้ในแต่ละวันของโลก เพื่อป้องกันการลอบโจมตีของอิสราเอล
แม้ท้ายสุดข่าวการโจมตีอิหร่านจะเป็นแค่ข่าวการรบเชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นการปล่อยข่าวตามกลยุทธ์ลับ ลวง พราง ของอิสราเอลก็ตาม
แต่ทันทีที่มีข่าวนี้ ราคาน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในตลาดโลก ก็พุ่งขึ้นไปมากกว่า 3% โดยที่ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ในขณะที่ราคาทองคำดิ่งลงจาก 2,435 ดอลลาร์ สรอ. มาอยู่ที่ 2,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะกลับมายืนในราคาเดิม
นักการทหาร และผู้เชี่ยวชาญสภาความมั่นคงของโลกให้ความเห็นว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอล กับ อิหร่าน ซึ่งเปิดหน้าชกครั้งแรก หลังอยู่เบื้องหลังประเทศในกลุ่มสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เช่น ซีเรีย อิรัก จอร์แดน ฯลฯ ไปรบกับอิสราเอลมานาน
ระบุว่า เอาเข้าจริงๆสงครามอิสราเอล กับ อิหร่าน อาจไม่บานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือ World War III ก็ได้
เพราะดูจากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่ เจาะจงสร้างความเสียหายตรงเป้า และไม่ทำลายสถานที่ข้างเคียง หรือประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ได้รับผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน
ไม่เหมือนสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เหลือแต่ซากปรักหักพังจนไม่อาจทำนุบำรุง หรือฟื้นฟูให้กลับคืนมาใหม่ได้อีก
สงครามของสองประเทศนี้ อาจเป็นเพียง Direct War ที่มุ่งประหัตประหารกันโดยตรง โดยไม่ทำให้โลกประณามเหมือนสงครามอื่นๆที่ผ่านมา
แต่ขึ้นชื่อว่า สงครามซึ่งทั้งสองประเทศต่างก็มียุทโธปกรณ์ที่มีศักยภาพการทำลายล้างสูง ซ้ำยังมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นเดิมพันด้วย ถ้าประสงค์จะล้างบางกันจริงๆ สิ่งที่จะกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เศรษฐกิจโลก น้ำมันดิบในกลุ่มประเทศเหล่านี้ อาจมีราคาแพงเช่นที่เคยเกิดขึ้นเกินกว่า 100-150 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล การค้าขาย-ส่งออกได้รับผลกระทบแน่ๆถ้าค่าขนส่งแพงขึ้นเพราะต้องอ้อมโลก การท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาหลังโควิดคงชะงักงันไปอีก
ราคาหุ้น ทองคำ พันธบัตร ในตลาดเงินตลาดทุนโลกน่าจะผันผวนอย่างหนัก ถ้าไม่ใช่มืออาชีพ ก็ไม่ควรยื่นมือเข้าไป