ผู้นำยูเครนสั่งประชาชนเร่งอพยพออกจาก “โดเนทสค์”
รัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าลงมือสังหารเชลยศึกชาวยูเครน ในเรือนจำภูมิภาคโดเนทสค์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คน ขณะที่ผู้นำยูเครนประกาศให้ประชาชนในภูมิภาคโดเนทสค์อพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว
วันนี้ (31 ก.ค.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน สั่งให้พลเรือนทุกคนในพื้นที่ทางตะวันออกของภูมิภาคโดเนทสค์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน อพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพื่อลดความสูญเสียจากการใช้กำลังของกองทัพรัสเซีย
นอกจากนี้ยังระบุว่า ผู้คนอีกหลายแสนคนที่ยังอยู่ในพื้นที่สู้รบในภูมิภาคโดเนทสค์ จำเป็นจะต้องออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างรองนายกรัฐมนตรียูเครน ว่า การอพยพจะต้องเกิดขึ้นก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคถูกทำลายไปแล้ว
คำสั่งของผู้นำยูเครน มีขึ้นขณะที่รัสเซียเชิญให้องค์การสหประชาชาติ และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ สอบสวนการเสียชีวิตของเชลยศึกชาวยูเครนในเรือนจำเมืองโอเลนิฟกา ในภูมิภาคโดเนทสค์ หลังจากเรือนจำแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี ส่งผลให้เชลยศึกชาวยูเครนเสียชีวิต 53 คนและบาดเจ็บอีก 75 คน โดยเรือนจำแห่งนี้เป็นสถานที่กักขังทหารยูเครน รวมทั้งทหารกองพันอาซอฟที่ตกเป็นเชลยศึกของรัสเซีย
ขณะที่ผู้บัญชาการชั่วคราวของกองพันอาซอฟ ประกาศผ่านคลิปวิดีโอว่า รัสเซียจะต้องชดใช้การกระทำในครั้งนี้อย่างสาสม
รัสเซียและยูเครนต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือนจำดังกล่าวโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า โดยรัสเซียอ้างว่า กองทัพยูเครนใช้ระบบจรวดหลายลำกล้องไฮมาร์ส ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ โจมตีเรือนจำเพื่อปิดปากนักโทษ ขณะที่ยูเครนระบุว่า รัสเซียโจมตีเรือนจำเพื่อทำลายหลักฐานเกี่ยวกับการทรมานและการสังหารเชลยศึก