จีนซัดสหรัฐอย่ายุ่งเลือกตั้งไต้หวัน
บรรยากาศการเมืองไต้หวันทวีความเข้มข้นมากขึ้น ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลกโดยเฉพาะจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากวันที่ 13 ม.ค. คือวันเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวัน มีผู้สมัครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำไต้หวันจาก 3 พรรค ได้แก่ นายไล่ ชิง เต๋อ จากพรรครัฐบาลประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) นายโหว โหย่ว อี๋ จากพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง (KMT) และนายเคอ เหวิน เจ๋อ จากพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ผู้ที่ได้รับชัยชนะจะเป็นผู้กำหนดชะตาของไต้หวันในอนาคต
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายเฉิน ปิน หัว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน แถลงเตือนประชาชนไต้หวันให้เห็นถึงผลกระทบอันร้ายแรงที่อาจทำให้ไต้หวันห่างไกลจากสันติภาพและเข้าใกล้สงครามมากยิ่งขึ้น หากนายไล่ ชิง เต๋อ จากพรรคดีพีพี ซึ่งมีจุดยืนต้องการประกาศเอกราชไต้หวันได้ขึ้นแท่นเก้าอี้ผู้นำคนใหม่ โดยจีนหวังว่าชาวไต้หวันจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกผู้นำที่จะเข้ามากำหนดอนาคตของไต้หวันที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 ม.ค.
ถ้อยแถลงดังกล่าวจากทางการจีนมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศแผนการเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เยือนไต้หวันหลังจบการเลือกตั้ง โดยระบุว่าสหรัฐฯจะพบปะพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับรัฐบาลใหม่ของไต้หวัน ส่งผลให้ต่อมา นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงตอบโต้ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เตือนสหรัฐฯ ให้หลีกเลี่ยงการกระทำอันใดที่เป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งไต้หวัน รวมถึงเพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯถูกทำลาย
วันเดียวกัน นายโหว โหย่ว อี๋ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันจากพรรคก๊กมินตั๋ง เผยมุมมองการเลือกตั้งผู้นำในครั้งนี้กับผู้สื่อข่าวว่า เป็นการเลือกระหว่างสงครามกับสันติภาพ พร้อมระบุว่าหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจะไม่แตะต้องเรื่องการรวมชาติและจะคงสถานะของไต้หวันไว้ดังเดิม