ข่าวสถานการณ์ชายแดนใต้

12 กันยายน ชี้ชะตา ‘คดีตากใบ’ พรรคประชาชน หวั่น ‘ขาดอายุความ’

 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีจำเลยในคดีตากใบอาจไม่ไปปรากฏตัวต่อศาลตามนัดในวันที่ 12 กันยายน 2567 อาจจะส่งผลให้คดีขาดอายุความ 20 ปี หรือครบกำหนดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ว่า จำเลยในคดีมี 7 คน โดยมี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นจำเลยที่หนึ่ง

นายรอมฏอนกล่าวว่า ในวันที่ 12 กันยายน 2567 จะเป็นนัดแรกที่ศาลจะมีการนัดเบิกความจำเลยและนัดตรวจพยานหลักฐาน ถือว่าเป็นนัดแรกที่สำคัญมาก ประเด็นอยู่ที่ว่าในวันที่ 12 กันยายนนี้ ทางจำเลยทั้ง 7 คนจะเดินทางไปที่ศาลจังหวัดนราธิวาสหรือไม่ เพราะหลักการของการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป จะต้องมีการพิจารณาคดีต่อหน้าจำเลยด้วยเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้นนี่คือจุดชี้ขาด 

นายรอมฎอนกล่าวว่าด้วยเหตุนี้ ตนจึงต้องขอเรียกร้องให้จำเลยซึ่งเป็นทั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งต่อราชการและสังคม ได้ให้ความร่วมมือกับศาลในการไปร่วมพิจารณาคดีก่อนหมดอายุความด้วย นี่ไม่ใช่แค่การให้ความร่วมมือต่อกระบวนการในชั้นศาลเท่านั้น แต่นี่คือชะตากรรมของความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ส่วนจำเลยที่หนึ่ง ต้องพูดกันตรงๆ ว่า พล.อ.พิศาล มีสถานะเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งโดยบังเอิญว่าในวันที่ 12 กันยายนที่ศาลนัด ก็มีการประชุมร่วมสองสภาเพื่อฟังคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีก็อาจจะเป็นเหตุในการอ้างได้ว่าติดภารกิจ”นายรอมฎอนกล่าว

นายรอมฏอนกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรคสี่ ที่พูดถึงการคุ้มครองสส.และสว.ในการพิจารณาคดีระหว่างที่มีการเปิดสมัยประชุม ก็ยังเปิดช่องให้กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยที่เป็นการแสดงเจตจำนงของทางสมาชิกว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกจะได้แสดงสปิริตในการเข้าร่วมการพิจารณาคดีครั้งนี้ด้วย

“หากอายุความสิ้นสุดลง คำถามใหญ่ๆ ไม่ใช่แค่จำเลยที่ตั้งใจจะไม่ปรากฏตัวเท่านั้น แต่อาจจะโยงไปถึงพรรคการเมืองและรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับจำเลยด้วย ถ้าเราปล่อยให้อายุความหมดไปทั้งที่คดีถึงมือศาลแล้ว ศาลประทับรับฟ้องแล้ว มันจะกลายเป็นปมปัญหาและเป็นแผลเป็นที่จะแก้ไขไม่ได้”นายรอมฎอนกล่าว

นายรอมฎอนกล่าวว่า ได้รับทราบว่าทางญาติของผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรผ่านทางนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยเรียกร้องให้ประธานและสมาชิกสภาฯ ได้ให้ความสำคัญกับการอำนวยความเป็นธรรมและอนุญาตให้จำเลยที่ 1 เดินทางไปศาลในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งคงต้องติดตามว่าทางประธานสภาฯ จะดำเนินการอย่างไร

ที่มา สำนักข่าวอิศรา