โรคระบาดคือการกำหนดของอัลลอฮ์ แต่การดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิตเราเป็นหน้าที่ของรัฐ
ถึงแม้จะไม่อาจเข้าใจถึงเหตุและผล แต่ในฐานะมุสลิมผู้ศรัทศรัทธา เราจำเป็นต้องเชื่อว่าโรคระบาดคือการกำหนดของอัลลอฮ์ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลให้เราไม่ป้องกันและรักษาตัวเอง เพราะอิสลามสอนเราเช่นกันว่า “จงรักษาเถิด แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺจะไม่ทรงนำโรคลงมาเว้นแต่พระองค์จะนำยาเพื่อการบำบัดลงมาด้วย ยกเว้นโรคเดียวที่ไม่มียารักษา คือโรคชรา” (ฮะดิษบันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม) แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้โรคระบาดจะมาจากพระเจ้า แต่พระองค์ก็ส่งยารักษาลงมาและสั่งผู้ศรัทธาให้รักษาตัวเองด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้อิสลามยังสอนเราอีกว่า “อย่าสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองและผู้อื่น” (ฮะดิษบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ) และ “คนป่วยอย่าได้ไปอยู่ร่วมกับคนที่สุขภาพแข็งแรง” (ฮะดิษบันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม) สองคำสอนของท่านศานทูตมุฮัมมัดนี้ แสดงให้เราเห็นถึงความจำเป็นที่มุสลิมผู้ศรัทธาต้องปกป้องดูแลร่างกายของตัวเอง และอย่าทำให้ตัวเราไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
แต่ถึงกระนั้น การรับมือกับการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ของทั้งในประเทศและต่างประเทศก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การดูแลตัวเองของปัจเจกบุคคลนั้นไม่เพียงพอต่อการรับมือมหันตภัยในครั้งนี้ ตัวอย่างจากต่างประเทศอย่างอินเดียหรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจนถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะวิกฤต นั่นคือความผิดพลาดในการบริหารจัดการของรัฐ
เพราะไม่ว่าประชาชาชนอย่างเราจะตั้งการ์ดสูงป้องกันตัวเองมากขนาดไหน หากผู้มีอำนาจหน้าที่ไร้ประสิทธิภาพ เราทุกคนล้วนย่อมเดินเข้าสู่หายนะอย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ได้ไม่ยาก
ในฐานะที่เป็นมุสลิมผู้ศรัทธา Halal Life Magazine เชื่อว่า โรคระบาดคือการกำหนดของอัลลอฮ์ และเรามีหน้าที่ดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่น แต่เราก็เชื่อเช่นกันว่า การดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิตของพลเมืองเป็นหน้าที่ของรัฐในฐานะผู้ปกครองที่มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
และเราขอเรียกร้องเชิญชวนทุกคนออกมาส่งเสียงถามหาความรับผิดชอบในความผิดพลาดจากผู้มีอำนาจหน้าที่ ที่ทำให้ความสูญเสียเกิดขึ้นกับทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้
Note : ขออนุญาตโควทส่วนหนึ่งของโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ผศดร มูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรัง ที่พูดถึงประเด็นการของโรคระบาดกับมุมมองของมุสลิมผู้ศรัทธาไว้อย่างน่าสนใจ ( ดูโพสต์ฉบับเต็ม https://bitly/36TBolx )
“อัลบากิลานี ชี้ว่า มุสลิมมักกล่าวว่า นี่เป็นการทดสอบจากอัลเลาะห์ เราต้องอดทน (ผู้ศรัทธามักท่องแต่ประโยคนี้) แต่การอดทนไม่เพียงพอ เราต้องสำนึกในความผิดที่ผ่านมาที่เราสนับสนุนและปล่อยให้ความอยุติธรรมเกิดอย่างกว้างขวาง (ทั้งกับตัวเราเอง ความอยุติธรรมทางสังคม ตลอดจนความอยุติธรรมที่เรากระทำกับธรรมชาติด้วยน้ำมือของเรา: เช่นสนับสนุนเผด็จการ สนับสนุนทุนนิยมทำลายธรรมชาติ) และเมื่อสำนึกแล้ว ต้องปฏิรูปให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น
การเผชิญกับปัญหาของความชั่วร้ายจึงต้อง “อดทน สำนึกผิด และปฏิรูป” ดังที่คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวว่า :
إِلَّا ٱلَّذِينَ تَابُوا۟ مِنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ وَأَصْلَحُوا۟ فَإِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌ رَّحِيمٌ
เว้นแต่บรรดาผู้สำนึกผิดหลังจากนั้น และทำการแก้ไขปฏิรูป แท้จริงพระองค์อัลเลาะห์นั้นทรงเป็นผู้ให้อภัยและทรงเมตตายิ่ง (3:89)
ที่มา : https://www.facebook.com/halal.life.magazine/photos/a.191901920867235/4240582649332455/